เงินเกลี้ยงไม่รู้ตัวเสก ATM หายวับ

 เสียทรัพย์ไปแบบมึนๆ งงๆ ทั้งที่บัตรเอทีเอ็มก็เก็บไว้กับตัว เหตุไม่น่าจะเกิดขึ้นนี้ประสบกับ โชติทัศน์หงษ์พาณิช อายุ 34 ปี จนต้องรีบวิ่งโร่เข้าแจ้งความกับตำรวจว่า เงินฝากในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ถูกมือมืดรูดไป 8 แสนบาท ภายในเวลาเพียง 4 วัน โอ้ว…แม่เจ้า ตัวอย่างมีให้เห็นก็เยอะ เป็นข่าวก็แยะโชติทัศน์คิดทันทีว่า นี่คือขั้นตอนการหลอกลวงของมิจฉาชีพนั่นเอง

        ความจริงเขาก็ถูกเตือนจากผู้หวังดีแต่ไม่ประสงค์จะออกนาม อยู่ดีๆ ก็มีคนอ้างตัวว่าเป็นพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหาดใหญ่ จ.สงขลา โทรศัพท์มาหาสอบถามเรื่องเงินฝากในบัญชีมีการถอนออกอย่างผิดปกติ  

          เขาซ้อนแผนกลับทันทีด้วยการขอเบอร์โทรศัพท์มือถือของคนที่อ้างตัวว่าเป็นพนักงานธนาคาร แต่ถูกปฏิเสธ เข้าล็อกเป๊ะ เขาท้าทายบุคคลนิรนามทันทีว่าถ้าเป็นพนักงานของธนาคารไทยพาณิชย์จริง ก็อายัดบัตรเอทีเอ็มของเขาไปเลย เมื่อวางสายไปแล้วเขาลองไปกดเอทีเอ็มดู ก็ปรากฏว่า บัตรถูกอายัดจริง

          เมื่อไปตรวจสอบกับธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยสุวรรณภูมิ ที่ได้เปิดบัญชีไว้ ปรากฏว่าเงินในบัญชีถูกถอนออกไปตั้งแต่วันที่ 26-29 เม.ย. วันละ 2 แสนบาทรวม 4 วันเป็นเงิน 8 แสนบาท

          ลมแทบจับ บุคคลนิรนามกลายเป็นพลเมืองดีที่อุตส่าห์มาเตือนภัยแบบที่ไม่เคยมีใครได้รับการแจ้งเตือนมาก่อน ตำรวจประสานธนาคารตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามล่าคนร้ายทันที พบเงินถูกถอดไปในช่วงเวลา 01.00-02.00 น. ตรวจสอบบัญชีพบว่ามีการถอนเงินครั้งแรกจากตู้เอทีเอ็มหน้าบัณฑิตอพาร์ทเม้นท์จ.ปทุมธานี

          ครั้งที่สองถอนจากตู้ธนาคารกสิกรไทย ศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส แขวงทุ่งสีกัน ครั้งที่สาม ตู้ธนาคารกรุงเทพเซเว่นอีเลฟเว่น ถนนรัตนอุทิศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาและครั้งสุดท้ายตู้ธนาคารกสิกรไทย หน้าห้างทองอุดมทรัพย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยคนร้ายจะกดในช่วงเวลา 01.00-02.00 น.ทั้งหมด

          เหตุเกิดได้อย่างไร ทั้งที่เก็บบัตรเอทีเอ็มไว้กับตัวเสมอเขาติดต่อไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ ก็รับปากหากตรวจสอบพบว่าคนกดเงินไปไม่ใช่เจ้าของบัญชีจะคืนเงินให้ แต่ไม่ได้ระบุเวลา เขาจึงฝากถึงผู้บริหารธนาคารให้ประสานกับเจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วเพื่อไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก

          2-3 วัน ก่อนจะเกิดเหตุนี้ ก็มีกรณีที่คล้ายๆ กันเกิดขึ้นในพื้นที่ สน.โชคชัย เมื่อ ดวงชีวัน บุญเพชรอาชีพขายงานเขียนในตลาดนัดจตุจักร เข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายกดเงินในบัตรเอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์สาขาแจ้งวัฒนะ จากตู้ธนาคารกสิกรไทย สาขาที่ตั้งหน้าร้าน ซีพี เฟรชมาร์ท สาขาวังหิน สูญเงิน 10,500 บาทโดยมิได้นัดหมาย ในวันเดียวกันนี้ยังมีผู้เสียหายที่ถูกกดเงินจากตู้เอทีเอ็มแห่งเดียวกันมาแจ้งความเพิ่มเติมอีก 2 ราย

          เธอให้การว่า วันที่ 26 เม.ย. นำเงิน 1 หมื่นบาทไปฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเจเจมอลล์ ซึ่งฝากเป็นประจำหลังขายของเสร็จ วันรุ่งขึ้นเวลา 10.00 น. เธอได้นำบัตรไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเพื่อนำมาซื้อข้าวของ แต่เงินในบัญชีได้สูญสลายหายไปต่อหน้าต่อตาแล้ว 10,500 บาท ทิ้งไว้เหลือในบัญชีให้ดูต่างหน้าเพียง 85 บาทเท่านั้น

          โทรศัพท์ไปสอบถามที่ Call Center ของธนาคารไทยพาณิชย์ก็ทราบว่า เงินถูกถอนออกไปตั้งแต่เมื่อเวลา22.45 น.ของวันที่ 26 เม.ย. ที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทยสาขาหน้าร้าน ซีพี เฟรชมาร์ท จึงได้แจ้งความให้ตำรวจติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

          ขณะแจ้งความก็มีผู้เสียหายอีก 2 คนมาแจ้งความเช่นกันว่าถูกกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเดียวกัน วันเดียวกันและเวลาเดียวกัน รายแรกสูญเงิน 4 หมื่นบาท รายที่ 2 สูญไป 5 หมื่นบาท

          นอกจากนั้น ยังมีผู้เสียหายอีก 1 คนโทรศัพท์มาแจ้งตำรวจก่อนจะเดินทางมาแจ้งความเจอปัญหาเดียวกัน เธอจึงเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายคนถูกคนร้ายกดเงินไป แต่ยังไม่รู้ตัวเพราะยังไม่ได้

          ตรวจสอบการกดบัตร เจ้าหน้าที่จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะแฮกข้อมูลผู้เสียหาย หลังจากเหยื่อทั้งหมดเคยกดเงินในตู้เอทีเอ็มที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ สาขารามอินทรา ด้านหน้าโลตัสเอ็กซ์เพรส กม.7

          แม้ว่าตู้บริการเอทีเอ็มจะตั้งอยู่ทั้งหมด 3 ตู้ ของธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพ แต่คนร้ายน่าจะมีการแฮกข้อมูลจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าวได้ ก่อนจะนำไปกดเงินจากตู้บริการเอทีเอ็มย่านวังหิน

          ทางธนาคารได้ตรวจพบพิรุธว่ามีคนกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มที่เดียวกันจริง ในเวลาเดียวกันทั้งสามรายขณะที่ตำรวจกำลังควานหาเครื่องดูดรหัสเอทีเอ็มที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าวแล้ว พร้อมขอภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

          อีกรายที่น่าจะทำให้ชาวบ้านอย่างเราๆ พึงระวังเรื่องการใช้บัตรมากขึ้น ภัทรา ชื่นบานเจ้าของบริษัทสเปซแมนฮอลิเดย์ ถูกคนร้ายฉวยโอกาสนำบัตรวีซ่าอิเล็กตรอนของธนาคารกสิกรไทยที่ลืมไว้ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย สาขาสีลม ไปเปลี่ยนรหัส แล้วกดเงินสดหายไป 1.8 แสนบาท

          เธอใช้บัตรวีซ่าอิเล็กตรอนของธนาคารกสิกรไทย มีวงเงินใช้จ่ายได้วันละ 2 แสนบาท วันเกิดเหตุได้โอนเงินให้บริษัทคู่ค้าที่มาจองตั๋วเครื่องบินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย สาขาสีลม จำนวน 26,250 บาท

          พอโอนเงินเสร็จกลับลืมบัตรไว้ที่ตู้ดังกล่าว ขณะหน้าจอยังขึ้นว่า “ต้องการทำรายการต่อหรือไม่” นั่นคือจังหวะที่ความซวยมาเยือน เธอจำได้ว่ามีชายต้องสงสัย สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวสีแทน ผมรองทรง ท่าทางตุ้งติ้ง เดินสวนเข้าไปในตู้เอทีเอ็ม แล้วอาศัยจังหวะที่หน้าจอรายการค้างอยู่ ทำรายการต่อโดยแก้รหัสผ่าน

          เธอสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเดินจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าวไปอีก 300 เมตร แล้วกดเงินตู้เอทีเอ็มบริเวณหน้าธนาคารไทยธนาคารไป 5 หมื่นบาท แล้วก็ไปกดจากตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา BTS ศาลาแดงอีก 1 แสนบาท แล้วเดินต่อไปกดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ศาลาแดงอีก 3 หมื่นบาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 1.8 แสนบาท

          เหตุเหล่านี้เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ บางครั้งเราก็ไม่สามารถจะป้องกันได้ ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มอยู่ดีๆ วันรุ่งขึ้นไปกดอีกครั้งเงินจะสูญหายไปจากบัญชีเรียบร้อยแล้ว ก็คงต้องได้แต่หวังว่าการประสานงานระหว่างธนาคารกับตำรวจจะรวบโจรกลุ่มนี้มาให้ได้โดยไว แล้วทลายให้สิ้นซาก ไม่เช่นนั้นจะมีเหยื่ออันโอชะอีกหลายรายติดหล่ม !!!

          ในต่างประเทศเริ่มมีพวกหัวขโมยออกแบบเครื่องอ่านที่มีขนาดบางเท่าบัตร ATM โดยเอาใส่ลงไปในช่องเสียบบัตรดังนั้นหากที่เสียบบัตรแน่นกว่าปกติให้สังเกตในช่องเสียบบัตรและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที–จบ–

          ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์