Select Page

ชมรมหนี้บัตรเครดิตฯทางออกของคนเงินหมด

ชมรมหนี้บัตรเครดิตฯทางออกของคนเงินหมด

การไม่มีหนี้…เป็นลาภอันประเสริฐ คงจะเป็นวลีเด็ดที่ “ชาวหนี้” ทั้งหลายต่างบรรลุรู้แจ้งเห็นจริงเมื่อชีวิตต้องประสบพบเจอกับเรื่องเลวร้าย เพราะไหนจะดอกเบี้ยสุดโหด ที่ต้องชำระให้เจ้าหนี้ทุกเดือน ไหนจะต้องผจญกับการตามจิกทวงหนี้ ไม่เว้นแต่ละวัน แถมเงินที่อุตส่าห์หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงก็ไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ เพราะต้องเอาไป “โปะหนี้” หมด

          หัวอกคนเป็นหนี้สุดแสนจะชอกช้ำ!! ด้วยความเข้าอกเข้าใจเพราะเคยเป็นหนี้มาก่อน “ชาวหนี้” กลุ่มหนึ่งกว่า 20 คน รวมตัวกันก่อตั้ง “ชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล” เพื่อให้คำปรึกษาปัญหาหนี้สินแก่ผู้เดือดร้อน

          นายไพโรจน์ โภคสุพัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ชมรมหนี้บัตรเครดิตฯ ผู้ริเริ่มก่อตั้งชมรม เล่าว่าชมรมก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2548 โดยใช้เว็บไซต์ของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค www.consumerthai.org/debt/ เป็นตัวกลางในการเผยแพร่ความรู้และตอบคำถามผู้ประสบปัญหาที่จะเข้ามาโพสท์กระทู้บนเว็บบอร์ด ซึ่งทุกคำถามจะได้รับการตอบกลับอย่างเอาใจใส่จากคณะกรรมการของชมรมที่เคยผ่านประสบการณ์การเป็นหนี้มาก่อน รวมทั้งให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย นอกจากนี้บนเว็บไซต์ยังระบุเบอร์ฮ็อตไลน์สายด่วนของคณะกรรมการแต่ละคนสำหรับผู้ต้องการปรึกษาโดยตรง ซึ่งทั้งหมดเป็นการให้คำปรึกษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

          “คนเป็นหนี้จะเครียดมาก คนที่เข้ามาปรึกษาส่วนใหญ่อยากฆ่าตัวตายทั้งนั้น ไม่รู้จะทำยังไง กลัวนั่น กลัวนี่ กลัวไปหมด การให้คำปรึกษาของชมรมไม่มีจุดประสงค์ให้เบี้ยวหนี้ แต่แนะทางออกที่จะทำให้เขาอยู่รอดได้โดยไม่อดตาย และไม่ไปก่อหนี้เพิ่ม”ผู้อาวุโสของชมรมชี้แจง

          ตลอด 6 ปีที่เปิดชมรมมา มีผู้เดือดร้อนเข้ามาโพสท์กระทู้ในเว็บไซต์กว่า 5 หมื่นกระทู้ และทุกวันจะมีโทรศัพท์เข้ามาขอรับคำปรึกษาจากสมาชิกแต่ละคนอย่างต่ำ 8 สาย สูงสุดถึง 30 สาย โดยจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2552 คนไทยเป็นหนี้บัตรเครดิต 13 ล้านใบ มียอดหนี้จำนวน 185,000 ล้านบาทขณะที่เป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลกว่า 9 ล้านบัญชี มียอดหนี้สินเชื่อ216,000 ล้านบาท

          “คนที่เป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน เป็นคนมีการศึกษา และที่น่าตกใจ คนเงินเดือนสูงๆ5 หมื่น 8 หมื่น ก็เข้ามาสู่ในวังวนนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ถ้าคนกลุ่มนี้ติดหนี้กันหมด อนาคตของชาติจะฝากไว้กับใคร เพราะหนี้บัตรเครดิตหากใครถลำเข้ามาแล้ว ยากที่เป็นหลุดออกไปได้”นายไพโรจน์แสดงความเป็นห่วง

          ด้าน นายชูชาติ บุญยงยศ ประธานชมรมหนี้บัตรเครดิตฯ ผู้ใช้นามแฝงในการให้คำปรึกษา “นกกระจอกเทศ”เคยเป็นหนี้ 10 ล้านบาท ปัจจุบันกำลังจะปลดหนี้หมด เล่าว่า สาเหตุหลักๆ ของการเป็นหนี้บัตรเครดิตจะคล้ายๆ กัน คือ มีบัตรเครดิตหลายใบ แล้วจ่ายไม่ไหว ต่ำสุดที่เคยให้คำปรึกษาเป็นหนี้บัตรเครดิต 4-5 ใบ และสูงสุดถึง 30 ใบ

          “พอบัตรแรกจ่ายไม่ไหว ก็ทำบัตรใหม่มาจ่ายหนี้บัตรเก่า พอใบที่ 2 ไม่ไหว ก็ทำบัตรใหม่อีก ทำเรื่อยๆ       จนตัน จ่ายไม่ไหวก็หันไปกู้นอกระบบอีก กลายเป็นวังวนที่ดิ้นไม่หลุด”

          สำหรับการปลดหนี้ง่ายๆ ประธานชมรมแนะนำว่า หลักการสำคัญให้หยุดหมุนเงินห้ามหาหนี้ใหม่มาจ่ายหนี้เก่าโดยเด็ดขาด และอยู่ให้ได้ด้วยรายได้ที่แท้จริงของตัวเอง จากนั้นจัดสรรรายได้ ทำตารางรายรับรายจ่าย สำรวจภาระหนี้สินของตนเอง  และศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาหนี้

          “คนเป็นหนี้ ถ้าอยากใช้หนี้หมด ต้องรู้จักจมให้เป็นอย่าหน้าบาง แต่ยืดอกรับไปเลยว่าเป็นหนี้ แล้วรัดเข็มขัดให้ดี หยุดพฤติกรรมใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และถ้าไม่อยากเป็นหนี้อีก มีบัตรเครดิตแค่ 1-2 ใบก็พอ อย่ามีหลายใบ และให้เจริญสติทุกครั้งที่ใช้ อย่าเอาไปซื้อทีวี ตู้เย็น แต่ใช้ยามฉุกเฉินเท่านั้น แล้วหันมาใช้เงินสดอยากได้อะไรให้เก็บเงินซื้อ ไม่มีเงินก็ไม่ต้องซื้อ เดินตามพระราชดำรัสของพ่อหลวง เศรษฐกิจพอเพียง ถ้าทุกคนปฏิบัติตามที่พ่อพูดจะไม่มีปัญหา สิ่งที่พ่อตรัสไว้ ไม่ผิด”นายนกกระจอกเทศกล่าวสรุปก่อนจะทิ้งท้ายตามประสาคนมากไปด้วยประสบการณ์ว่า

          “ความสุขของชีวิต คือ การไม่เป็นหนี้!!!

 

          ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.