Select Page

สารพัดกลโกง ระวังเสียรู้แก๊งตกทอง

สารพัดกลโกง ระวังเสียรู้แก๊งตกทอง

แก๊งมิจฉาชีพตกทองชาวบ้านไม่หมดไปจากสังคมไทยเสียที ถึงแม้ว่าหลายคนจะรู้เท่าทันถึงพฤติกรรมร้ายที่จะมาหลอกเงินในกระเป๋า แต่ด้วยวิธีการที่แยบยลขึ้น หลอกได้เนียนมากขึ้น ทำให้หลายคนยังตกเป็นเหยื่อ แม้จะคอยระวังตัวแล้วก็ตาม

หลายเหตุการณ์ของชาวบ้านที่ประกอบอาชีพสุจริตถูกหลอกจากแก๊งตกทองและเสียเงินนับพันนับหมื่นบาท จะด้วยว่าความโลภอยากได้เงิน หรือการถูกหลอกโดยไม่รู้ตัวก็ตาม ถือเป็นอาชญากรรมที่สร้างความเสียหาย

อย่างเช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่ค้าตลาดไทรายหนึ่งถูกหลอกเสียเงิน เสียสร้อยคอทองคำของตัวเองที่เป็นทองแท้ โดยยอมถอดให้แก๊งต้มตุ๋นอย่างไม่น่าเกิดขึ้น

อนุสรา เดชใด อายุ 25 ปี แม่ค้าขายปลาที่ตลาดไท ถูกแก๊งตุ๋นทองหลอก โดยก่อนเกิดเหตุมีหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี รู้ภายหลังว่าเป็นคนร้าย มาถามตัวเธอว่า เห็นกระเป๋าสตางค์ที่ทำตกไว้หรือไม่

เธอปฏิเสธบอกว่าไม่เห็น จากนั้นหญิงสาววัย 30 ปีก็เดินจากไป ถัดไปไม่กี่สิบนาที ก็มีผู้หญิงอีกคนมาพูดคุยกับเธอว่า เจอกระเป๋าสตางค์ของคนที่ตามหาอยู่ และจะฝากให้เธอนำไปคืน จังหวะนั้นเองก็มีผู้หญิงอีกคนเดินมาหาเธอและจับมือถือแขนเธอไว้ด้วย จากนั้นเธอก็เกิดอาการสะลึมสะลือไม่รู้สึกตัว แก๊งนี้จึงพากันพยุงตัวเธอเข้าไปในรถยนต์ของตัวเอง จากนั้นก็ใช้วิธีการหว่านล้อมสารพัด เธอจำได้เพียงว่าได้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทพร้อมพระเลี่ยมทองให้กับคนร้ายไป และสุดท้ายแน่นอนคนร้ายก็อันตรธานหนีหายไปทันที

อีกรายก็เป็นชายชาวไต้หวัน ถูกแก๊งต่างชาติหลอกนำทองปลอมที่มีส่วนผสมของทองแดง 61% สังกะสี 38% และเงินอีก 1% มาขายในราคากิโลกรัมละ 2-3 หมื่นบาท โชคที่ไหวตัวทันรีบแจ้งตำรวจ สน.ห้วยขวางตามจับได้ทัน ก่อนที่จะไปหลอกใครให้อีก

อย่างไรก็ตาม การหลอกลวงประชาชนลักษณะนี้ถือเป็นภัยร้ายแรง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ก็สั่งกำชับให้ตำรวจเร่งปราบปรามอย่างเต็มที่

“ที่ผ่านมามีคนถูกแก๊งตกทองหลอกเสียหายไปมาก ไม่เว้นแม้แต่ร้านทองคำเอง ก็มีหลายร้านถูกหลอก ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบชุบทองคำมาใหม่ เนื้อทองมีไม่ถึง 95% ร้านทองคำต่างจังหวัดที่มีระบบตรวจสอบไม่ดี จะโดนหลอกบ่อยครั้งมาก ตำรวจก็เข้าไปทลายแก๊งลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยความที่มีหลายขบวนการ อีกทั้งขณะนี้เริ่มจะมีการยอมความกันระหว่างมิจฉาชีพกับผู้เสียหาย ทำให้กลับไปหลอกลวงเหมือนเดิมอีก” พล.ต.อ.เอก กล่าว

สำหรับพฤติกรรมของแก๊งตกทองที่ทำกันเป็นประจำ คือ 1.ทำให้เราสงสารหรือช่วยเหลือ คือ ทำทีว่ากระเป๋าสตางค์ หรือกระเป๋าถือหายแล้วหา หรือทำเป็นเก็บกระเป๋าได้ แล้วหาเจ้าของไม่พบ

2.ขู่ ทำทีเก็บกระเป๋าได้โดยให้เราช่วยหาเจ้าของ พอไม่เจอก็ปรึกษาเราว่าเปิดดูเผื่อมีเอกสารสำคัญของเจ้าของกระเป๋า แต่หลังจากเปิดพบว่ามีทองคำหนักประมาณ 5 บาท ก็จะเอามาบอกว่าแบ่งกันดีไหม ไหนๆ ก็หาเจ้าของไม่เจอ ถ้าหากเราบอกว่าไม่เอา ก็จะขู่ว่า ทำอย่างนี้ไม่ได้คุณเห็นทองแล้ว หากเอาไปขายแล้ว คุณไปแจ้งตำรวจ ตำรวจก็จับฉันสิ แต่พอเราจะพาไปแจ้งตำรวจ กลับไม่ยอมไป

3.วางยา คือเห็นว่าเมื่อเหยื่อจะหนีหรือเอ๊ะใจ ก็จับมือหรือส่วนอื่นของร่างกาย นั่นแหละคือได้ป้ายยาแล้ว ฤทธิ์ของยาทำให้เรามึนงงหมดแรง เขาสั่งให้ทำอะไรเราก็ทำตามทุกอย่าง แม้กระทั่งถอดสร้อยให้เขาด้วยมือตัวเอง

ดังนั้นอย่าให้ความสงสารแก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เราไม่รู้จัก ที่มาขอความช่วยเหลือ หากเราจะช่วยเหลือหรือคุยกับเขาให้เรียกคนอื่นมาเป็นพยาน  หรือรู้เห็นด้วยเป็นดีที่สุด

สิ่งสำคัญพึงคิดไว้เสมอว่า  “อย่าให้ความโลภ” เข้ามาครอบงำตัวเอง หรืออย่าไปพูดคุยหลงเชื่อคนแปลกหน้า ไม่เช่นนั้นอาจจะน้ำตาตกในกลายเป็นเหยื่ออีกรายของแก๊งตกทอง

 

ที่มา : คอลัมน์ขยายประเด็น หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม 2555 หน้า Z5

About The Author

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.