คิดบวก กลางหมอกจางและควันพิษ

ปัญหาหมอกพิษ (smog) ตามเมืองใหญ่ในจีน ไม่ใช่ปรากฏการณ์แปลกใหม่อีกต่อไปหลังสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปจากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในปีนี้ที่มีครั้งหนึ่ง ค่ามลพิษอากาศแตะระดับสูงสุดในรอบ 52 ปี

ภาพปัญหาหมอกควันในประเทศจีน

ในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม เมืองในจีนนับร้อยแห่งกินซึ่งพื้นที่ราวครึ่งหนึ่งของประเทศ เพิ่งเผชิญหมอกควันพิษปกคลุมกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจอย่างนครเซี่ยงไฮ้ เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวต้องล่าช้าและโรงเรียนปิดการเรียนการสอน ส่วนที่เมืองหังโจว ที่อยู่ใกล้กัน เด็กนักเรียนต้องทำกิจกรรมประจำวันอย่างเคารพธงชาติภายในร่ม โดยใช้ภาพธงชาติจีนบนทีวีจอยักษ์แทนยืนหน้าเสาธงจริง

กระนั้น ท่ามกลางหมอกควันหม่นซึมระลอกล่าสุด สื่อทางการอย่างโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานข่าวชิ้นหนึ่งที่พอจะเรียกรอยยิ้มใต้ผ้าปิดจมูกได้บ้างนั่นคือ การรวบรวมอารมณ์ขัน การคิดบวก และมองเห็นโอกาสที่หมอกควันนำมาให้ได้ถึง 5 ประการด้วย ได้แก่ 1.ช่วยให้ชาวจีนสามัคคีเพราะบ่นในเรื่องเดียวกัน 2.สร้างความเท่าเทียม เพราะไม่ว่ารวยหรือจนก็โดนหมอกพิษเล่นงานกันถ้วนหน้า 3.ตาสว่างเพราะตระหนักแล้วว่านี่คือผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว 4.อารมณ์ขัน จากการปล่อยมุกฮาๆ ที่สะพัดทางอินเทอร์เน็ต และ 5.ช่วยขยายการเรียนรู้ ทั้งด้านอุตุนิยมวิทยา ภูมิศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และประวัติศาสตร์

ภาพธงชาติจีน

ขณะที่โกลบอลไทม์ส สื่อในเครือของไชนา เดลี ของพรรคคอมมิวนิสต์ มาในแนวชาตินิยมและฮือฮาไม่น้อย เมื่อมองเห็นประโยชน์อีกอย่างจากหมอกพิษว่า ใช้เป็นโล่ป้องกันการโจมตีจากขีปนาวุธ ดีต่อการเพิ่มศักยภาพป้องกันประเทศ

แม้รัฐบาลแดนมังกรงัดหลายมาตรการมาเยียวยา แต่ต้องใช้เวลาอีกนาน ดังที่นายเซียง เย่ฮุย หัวหน้าสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อม กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวเมื่อเร็วๆนี้ว่า มลพิษอากาศในจีนเป็นปัญหาทางเจตนารมณ์ทางการเมือง ไม่ใช่ความสามารถทางเทคโนโลยี “หมอกพิษมีอยู่ที่หนแห่ง หากที่ไหนไม่มี ที่นั่นจะเป็นข่าว”

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2556 หน้า 14