Select Page

“ซิปคาร์” คาร์แชริง ธุรกิจใช้รถตามต้องการ

“ซิปคาร์” คาร์แชริง ธุรกิจใช้รถตามต้องการ

เพราะปัจจุบันการเดินทางมีหลายรูปแบบให้เลือกหลายคนๆจึงหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนกันมากขึ้นและซื้อรถเป็นของตัวเองน้อยลง  ทว่าบางครั้งคนเราก็มีความจำเป็นที่ต้องใช้รถส่วนตัวบ้าง จึงเป็นที่มาของไอเดีย “คาร์แชริง” หรือการเช่ารถยนต์แบบใหม่นั่นเอง

  ธุรกิจคาร์แชริงอาจเป็นธุรกิจที่ฟังดูไม่คุ้นเคยนัก แต่จริงๆแล้ว ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายก็คือ เป็นหนึ่งในรูปแบบของธุรกิจเช่ารถ ซึ่งเน้นตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใช้รถยนต์เป็นครั้งคราวเท่านั้น หรือบางคนที่ต้องการใช้รถตามความต้องการในขณะนั้น  แน่นอนว่า ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าบำรุงรักษารถแต่อย่างใด เพียงแค่จ่ายค่าบริการก็สามารถนำรถออกมาวิ่งได้ทันที

แต่เดิมคาร์แชริงเป็นไอเดียที่เกิดขึ้นในยุโรป แต่คุณแม่ชาวอเมริกัน 2 คน เอนต์เจ แดเนียลสัน และโรบิน เชส ตัดสินใจทำธุรกิจนี้ โดยพบว่าคาร์แชริงทำกำไรมหาศาล เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนและสามารถนำประโยชน์จากเทคโนโลยีมาใช้ได้เต็มที่

 ข้อแตกต่างของคาร์แชริงกับการเช่ารถทั่วไป คือลูกค้าจะต้องได้รับการรับรองว่าสามารถขับรถได้ โดยรถนั้นจะสามารถเช่าเวลาใดก็ได้ ซึ่งจะเช่าเป็นวัน เป็นชั่วโมง เป็นนาทีก็สามารถทำได้ การจองรถ การคืนรถ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ส่วนค่าน้ำมันรถก็ถูกรวมอยู่ในค่าบริการเรียบร้อยแล้ว

คุณแม่ทั้งสองตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงิน 7.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ (ราว 2.25 ล้านบาท) จนในปี 2543 รถเช่าคันแรกของซิปคาร์ก็ออกวิ่งในบอสตันและที่สำคัญที่สุดของการบริการคือ ลูกค้าจะจ่ายเงินเฉพาะเวลาที่เช่าเท่านั้น

 วิธีการจองของซิปคาร์นั้นง่ายและแสนง่าย เพราะสมาชิกของบริษัทสามารถเช็กจากระบบได้ว่า รถคันใดบ้างที่ยังไม่ได้ถูกจอง รวมทั้งจองรถได้ด้วยตัวเองผ่านหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต หรือแอพพลิเคชันของแอนดรอยด์และเอไอเอส

รูปแบบของรถก็มีให้เลือกมากกว่า 30 แบบ ตามความต้องการของผู้ใช้ ทั้งรถยนต์และรถบรรทุกยี่ห้อก็มีหลากหลายยี่ห้อ ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู วอลโว่ มินิคูเปอร์ ซึ่งรถแต่ละคันก็จะมีที่จอดประจำ ซึ่งเมื่อใช้เสร็จก็ต้องขับนำมาคืนในพื้นที่ที่จอดรถของซิปคาร์

ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีการจองที่ง่ายเท่านั้น เพราะเมื่อจองเสร็จแล้ว สมาชิกจะได้รับการ์ดฝังชิปที่ใช้เปิดรถ โดยที่รถ โดยที่รถจะมีเครื่องรับส่งสัญญาณที่ระบุข้อมูลต่างๆ โดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ  (อาร์เอฟไอดี) ซึ่งการ์ดนี้ก็จะใช้สำหรับการเปิดปิดรถภายในเวลาที่เช่า ภายในรถแต่ละคัน  ก็มีเครื่องบันทึกเวลาการใช้และระยะไมล์ที่จะส่งข้อมูลไปให้คอมพิวเตอร์ส่วนกลาง

 ปัจจุบัน ซิปคาร์ได้ขยายไปทั่วสหรัฐ แคนาดา อังกฤษ สเปน และออสเตรเลีย ทำให้เป็นธุรกิจเช่ารถยนต์ที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในโลก มีพนักงานกว่า 700 คน มีรถเช่าในเครือข่ายจำนวน 1 หมื่นคัน และมีสมาชิกทั้งหมดรวมกว่า 7.7 แสนคน

เท่านี้ยังไม่พอ เอวิส บัดเจ็ต กรุ๊ป บริษัทเช่ายานพาหนะขนาดใหญ่ของสหรัฐ ยังได้เสนอซื้อซิปคาร์ด้วยเม็ดเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.5 หมื่นล้านบาท) อีกด้วย

  เพราะเป็นธุรกิจคาร์แชริงที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและความสะดวกสบายของคนได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ซิปคาร์จะขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในธุรกิจต้นแบบที่ผู้ประกอบการมือใหม่ทั้งหลายสมควรเอาเป็นแบบอย่างอย่างยิ่ง

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2556 หน้า B14

 

About The Author

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.