Select Page

‘ไหว้ครู’มนต์ขลังบนสังเวียน….กำลังหายไป

‘ไหว้ครู’มนต์ขลังบนสังเวียน….กำลังหายไป

“มวยไทย” ถือเป็นเอกลักษณ์ของไทยอย่างหนึ่งที่ “โด่งดัง” ไปทั่วโลก แต่ในขณะที่คนต่างชาตินิยมชมชอบกีฬาหมัดๆ มวยๆ ของไทย คนไทยกลับหลงๆ ลืมๆ ไม่ค่อยให้ความสำคัญ โดยเฉพาะพิธี “ไหว้ครู”

          จากการผลิตสารคดีสั้น 5 นาที เรื่อง”ศิลปะมงคลบนสังเวียน”ของทีม “นักข่าวเยาวชน”โรงเรียนสุราษฎร์พิทยาจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งนอกจากได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดในโครงการสร้างสรรค์ฉลาดคิด ผลิตข่าว กับพานาโซนิค 2009 แล้ว ผลงานของพวกเขายังคว้ารางวัลกำกับเสียงยอดเยี่ยม จากการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชียโอเชียเนีย ที่ประเทศสิงคโปร์ และผลงานชิ้นนี้ ยังมีโอกาสเข้าแข่งขันในระดับโลกที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย
          น่าภาคภูมิใจไม่น้อยที่ผลงานของตัวเองประสบความสำเร็จ ทว่า…กลับมี “ความจริง” บางอย่างที่ทำให้เหล่านักข่าวเยาวชน รู้สึกใจหาย!!
          “ผลงานของพวกเราทำเกี่ยวกับพิธีไหว้ครูมวยไทย เพื่อสื่อให้เห็นถึงความเคารพของลูกศิษย์ต่อครูบาอาจารย์ ที่ก่อนทำสิ่งใดต้องไหว้ครูดั่งเช่น มวยไทยที่แสดงออกมาด้วยท่วงท่าร่ายรำต่างๆ””อาย” น.ส.นัติกา คิดเหมาะ ชั้น ม.5 หนึ่งในทีมงานเริ่มเล่า
          สารคดีดำเนินเรื่องด้วยภาพและเสียงที่มีกลิ่นอายความขลังโดยนำเสนอประวัติความเป็นมาและความสำคัญของการไหว้ครู เล่าถึงวัตถุมงคลที่ใช้ในการไหว้ครูมี 3 อย่าง คือมงคล ใช้สำหรับสวมหัว เชือกคาดหมัด และประเจียดรัดแขน รวมทั้งท่ารำไหว้ครูในปัจจุบัน เช่น ท่าพรหมสี่หน้าท่าสาวน้อยประแป้ง ท่านกยูงรำแพนท่าพระรามแผลงศร และท่าย่าง 3 ขุม      
    “กว่าจะออกมาเป็นผลงานสมบูรณ์ พวกเราใช้เวลาทำประมาณ 1 เดือน ขั้นตอนที่ยากที่สุด คือการเก็บข้อมูล
          เพราะต้องค้นหาข้อมูลทั้งจากหนังสือ อินเตอร์เน็ต สื่อต่างๆ และลงพื้นที่เก็บข้อมูลจริงที่ค่ายมวยอีก 5 แห่ง””เอ๋” น.ส.อรุณี มีลือชั้น ม.6 เล่าจากตรงนี้เอง ทำให้พวกเขาพบว่า “พิธีไหว้ครู” ของมวยไทยกำลังจะหายไป!!!
          “โบว์” น.ส.สราวลี ทิพยธรรมชั้น ม.5 บอกว่า ตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะโทรทัศน์เวลาถ่ายทอดการชกมวยไทย พอถึงช่วงไหว้ครูก็จะตัดไปโฆษณา ส่วนคนดูก็ไม่สนใจ
          และครูมวยสมัยใหม่ก็ไม่เน้นเรื่องนี้แล้ว เขามองว่าเป็นจุดเล็กๆ ไม่สำคัญเท่าผลแพ้ชนะWน่าเสียดาย ถ้าไหว้ครูจะหายไป ทั้งที่จริงๆแล้วมีความสำคัญมาก
          เพราะเป็นเอกลักษณ์อันงดงามของไทยแสดงให้เห็นความนอบน้อมของคนไทย” โบว์ว่าอย่างนั้น ก่อนที่ “บูม”นายถิรวุฒิ บวรทวีวงศ์ ผู้ชายหนึ่งเดียวในทีม บอกต่อว่า
          “การมีขึ้นมาใหม่ ยากกว่าการดำรงไว้ ถ้าละเลยเรื่อยๆ ต่อไปเด็กรุ่นหลังก็จะไม่รู้จักว่าไหว้ครูเพื่ออะไร ครูมวยกับลูกศิษย์ก็จะเป็นแค่ครูกับนักเรียนธรรมดาๆ ไม่มีความผูกพันลึกซึ้ง ไม่แตกต่างอะไรจากมวยสากลที่มีแค่ ยู(You) กับ ไอ (I)” บูมสรุปในขณะที่ยังไม่หาย ก็ต้องช่วยกันรักษา–จบ–
         
 
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.