Select Page

สมบัติผลัดกันชม :เมื่อของเก่าไร้ค่าของคุณกลายเป็นของใหม่ที่มีค่าสำหรับคนอื่น

สมบัติผลัดกันชม :เมื่อของเก่าไร้ค่าของคุณกลายเป็นของใหม่ที่มีค่าสำหรับคนอื่น

เสื้อผ้าที่เบื่อแล้ว หรือรูปร่างเปลี่ยนแปลงไปจนไม่สามารถใส่ไซส์เดิมได้อีก ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ที่เริ่มล้นบ้าน เบื่อของเดิมๆ ของที่ซุกไว้ในมุมลึกสุดของตู้ หรือกองระเกะระกะอยู่ในห้องเก็บของ ลองเอามาปัดฝุ่นดูสิคะ บางทีอาจเจอสิ่งที่นำกลับมาใช้ได้อีกหรือหากไม่ชอบมันแล้วแต่สภาพข้าวของยังดีอยู่ เอาออกมาขายหรือบริจาคเถอะค่ะ เพราะของที่ไร้ค่าสำหรับคุณอาจเป็นของมีค่าของใครอีกหลายคน

 

เรื่อง: สายสวรรค์ ขยันยิ่ง

           ใครเคยแลกเปลี่ยนข้าวของที่ไม่ใช้แล้วกับพี่น้องหรือเพื่อนที่สนิทกันบ้างคะ แนวคิดน่ารักๆ อย่างนี้ มีประโยชน์มากสำหรับการระบายข้าวของที่สภาพยังดี ไม่มีตำหนิหรืออาจจะใหม่เอี่ยมไม่เคยใช้งาน (เพราะตอนที่ซื้อของหรือเสื้อผ้าชิ้นนั้นมาอาจจะคิดน้อยไปหน่อย หรือซื้อของลดราคาที่ไม่มีสิทธิ์ลอง กลับมาถึงบ้านปรากฎว่าใส่ไม่ได้ อะไรทำนองนี้) บางอย่างก็ใช้จนเบื่อแล้ว บางอย่างก็รู้สึกตกกระแส อยากถอยของใหม่ป้ายแดงอีกแล้ว ทั้งทีของชิ้นนั้นก็ยังดูดีมีประโยชน์….

 

          นอกจากเอาของมาแลกเปลี่ยนกัน ไม่ต้องคำนึงถึงราคาค่างวด แบบสมบัติผลัดกันชมแล้ว เดี๋ยวนี้เขาก็นิยมจัดกิจกรรม “ตลาดนัดดารา”อย่างที่ช่อง 3 ก็จัดอยู่เป็นประจำทุกเดือน บริเวณข้างตึกมาลีนนท์ ถ.พระราม4 หรือการ”เปิดท้ายขายของ” ที่มีขึ้นบ่อยๆ ก็เป็นแหล่งระบายของที่ดี หลายงานก็เป็นงานการกุศล เงินที่ได้จากการขายของทั้งหมดหรือบางส่วนก็นำไปบริจาคให้แก่องค์กรสาธารณกุศลต่างๆ ได้ทำบุญอีกทางหนึ่งด้วย….

 

          ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบกิจกรรมแบบนี้ และมีประสบการณ์มาแล้วหลายครั้งค่ะ จำได้ว่าครั้งแรกเมือ่สัก 10   ปีที่แล้วโน่น เสาร์- อาทิตย์หนึ่งนึกครึ้มอกครึ้มใจ ก็คัดเลือกข้าวของ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้านี่ล่ะ ใส่ท้ายรถไปเปิดท้ายขายของหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแถบชานเมือง ขายได้ตั้ง 2-3 พันบาทก็ดีใจมาก ใจยังคิดเลยว่า  การขายของที่ง่ายที่สุดก็คือขายของตัวเองที่ไม่ใช้แล้วนี่แหละ ต้นทุนก็ไม่มีเพราะหากของเหล่านั้นยังดองเค็มอยู่ที่บ้านเราก็ไม่มีราคาค่างวดอะไรทั้งสิ้น เอามาขายไปถูกๆ ตัวละ 50  บาท 100 บาท ดีกว่ากันเยอะ  เห็นคนที่มาซื้อบางคนเขาแสดงอาการดีใจที่ได้ของที่เขาอยากได้แต่ไม่สามารถซื้อใหม่ พอมาเจอของที่เราเบื่อมันแล้ว ความรู้สึกที่แค่อยากจะขายทิ้งให้พ้นๆไป ก็แปรเปลี่ยนเป็นความปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก นี่ไงล่ะ ที่เขามักพูดกันว่า “เก่าของเรา แต่ใหม่ของเขา”

 

          ห่างหายไปหลายปี จนปัจจุบันมาอยู่ช่อง 3 พอฝ่ายที่เขารับผิดชอบจัด “ตลาดนัดดารา” มาชวนให้หาของมาขาย ดิฉันก็ไม่ลังเลที่จะไปค้นข้าวของในบ้าน ในตู้ หลังตู้ ในมุม ซอก หลืบต่างๆ ออกมาขายอีก แบบนานๆก็มาสักที ให้สอดคล้องกับเวลาและปริมาณข้าวของที่เราเบื่อแล้วในบ้าน เพราะทุกครั้งที่โละของออกมา ก็จะถือโอกาสจัดบ้านเสียใหม่ ก่อนจะกลับไปสู่การซื้อข้าวของชิ้นใหม่มาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน

 

          การซื้อของมือ 2 มือ3 มาใช้ไม่ใช่เรื่องหน้าอายสักนิด แถมยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ดีไม่ดีอาจจะได้ขอแบรนด์เนมหรูๆ สภาพดีมาใช้ในราคาถูกกว่าหลายเท่าตัว  เพียงแต่ต้องรู้จักเลือกค่ะ ว่าซื้อจากที่ไหน ตลาดนัดแต่ละแห่งมีที่มาของสินค้าอย่างไร ใครขาย เลือกให้ดีก็จะได้ของดีราคาเหมาะสมตามรสนิยมของเจ้าของเก่าที่ตรงกับเรา และเมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องทำความสะอาดอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นของใช้หรือเสื้อผ้า เครื่องประดับต่างๆ เพราะเชื้อโรคมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่บ้านดารานะคะ  ไม่ใช่ว่าซื้อเดรสสวยๆต่อมาจากดาราแล้วก็ใส่เลย บางทีชุดสวยๆนั้นมันอาจถูกหมกอยู่ในตู้ที่อับชื้นมานานแล้วก็ได้

 

           ล่าสุดดิฉันตั้งใจจะผูกขาดเป็นขาประจำกับงาน”ดาราไทยหัวใจรียูส” ของบริษัททีวีธันเดอร์เขานี่ล่ะค่ะ งานนี้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี  2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ลดการใช้ทรัพยากร อันนำไปสู่การแก้ปัญหาโลกนร้อน ภายใต้แนวคิด3R คือการใช้น้อย ใช้ซ้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่นั่นเองค่ะ  ครั้งแรกรู้ข่าวก็เพราะพี่นีโน่ เมทะนี บุรณศิริ มาออกรายการ “โต๊ะข่าวบันเทิง”ของพี่แหม่ม เพชรี ที่ช่อง  3  พอรู้เข้าดิฉันก็สมัครใจเข้าร่วมกับเขาทันทีเลย เพราะงานนี้ไม่ใช่แค่ได้ระบายของอย่างที่เคยทำๆมาเท่านั้น       แต่รายได้จากการขายของในงานนี้นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ สมทบมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก สภากาชาดไทย ด้วย

 

          งานดาราไทยหัวใจรียูส ปีที่ 2 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28-29 สิงหาคม  2553 ที่สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ค่ะ สถานที่สะดวกสบายเหมาะแก่การช็อปปิ้งมาก มีคนในวงการบันเทิง 50 คนร่วมนำของมาจำหน่ายกว่า

4,000 ชิ้น พอเสร็จงานทางทีมงานเขาก็รายงานให้ทราบว่า ปีนี้ขายของได้ถึง 8 แสนบาท (ในจำนวนนี้เป็นเงินที่ได้จากการประมูลของรักของหวงศิลปิน AF  ซึ่งทำราคาได้สูงมากทุกปีด้วย)และทางบริษัทสมทบเพิ่มเพื่อให้ได้เงิน 1 ล้านบาททูลเกล้าฯถวาย

 

          นี่ล่ะค่ะ กิจกรรมสนุกๆ มีประโยชน์ทั้งคนขายคนซื้อ  แถมยังได้ทำบุญร่วมกันใครสนใจอย่าลืมติดตามข่าวนะคะ แว่วมาว่าเขาจะจัดต่อเนื่องไปทุกปี แล้วปีหน้าไปพบกันค่ะ

 

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.