กินซีฟู้ดแสนอร่อย ในเทศกาลกินหอย ดูนก ตกหมึก ที่ชะอำ

ตอนสายๆวันศุกร์สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา นึกครึ้มอกครึ้มใจเลยชวนน้องๆ ที่ทำงานไปหาที่เที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์กัน แล้วก็พลันนึกได้ว่าเคยเห็นข่าวประชาสัมพันธ์งานเทศกาล “กินหอย ดูนก ตกหมึก” ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี แผนการท่องเที่ยวโดยมีงานดังกล่าวเป็นจุดหมายก็เริ่มต้นขึ้น

เรื่อง/ภาพ : สายสวรรค์ ขยันยิ่ง

       ด้วยความที่คิดจะเที่ยวกันแบบกระชั้นชิดไปหน่อย ทริปนี้จึงระดมกำลังกันไปกินหอยได้แค่ 4 คน รวมทั้งดิฉันด้วย แต่ดีที่รถตู้เช่าเจ้าประจำว่างอยู่ ก็เลยนัดหมายออกเดินทางกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า รถตู้ไปรับดิฉันที่บ้านแถวนนทบุรีก่อนเป็นคนแรก แล้วจึงมารับคนที่เหลือที่ช่อง3 ถ.พระราม 4

          เช้าวันนั้นอากาศช่างปลอดโปร่ง สดชื่น เหมาะแก่การออกไปเที่ยวมากๆ แต่เทวดาเหมือนจะแกล้งลองใจ พอไปถึงชะอำเข้าจริงๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา พวกเรายังไม่ย่อท้อ เมื่อไปถึงจุดชมวิวเทศบาลเมืองชะอำเพื่อจะลงทะเบียนไปดูนก ฝนเริ่มซาเล็กน้อย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอจนถึง 4 โมงเย็น เพื่อจะพาไปดูนกที่ทุ่งตะกาดพลีและวนอุทยานเขานางพันธุรัต ห่างออกไปไกลพอสมควร ซึ่งจะได้พบเห็นนกท้องถิ่นและนกอพยพทั้งนกที่อาศัยอยู่บริเวณหนองน้ำและชายเขาโดยจะต้องนั่งรถกระบะที่เขาเตรียมไว้พร้อมคนขับและมัคคุเทศก์ ดิฉันเหลือบดูนาฬิกาขณะนั้นราวๆ เที่ยง (เสียแผนหมด) จึงพยายามต่อรอง ขอมัคคุเทศก์สักคนนั่งไปกับรถตู้พวกเราเลย เพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็ไม่ได้ค่ะ เจ้าหน้าที่เขาบอกว่าไม่สามารถให้บริการนอกแผนได้ เพราะคนของเขาล้วนเป็นอาสาสมัคร ที่มาช่วยทางเทศบาลให้บริการนักท่องเที่ยว มีคนจำกัด และทำงานตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น และอีกเงื่อนไขหนึ่งคือ ถ้าถึง 4 โมงเย็นแล้วฝนตกลงมาอีกก็จะงดดูนกเลย ไม่ว่าจะลงทะเบียนกันไว้ก็ตาม…

          พอฟังอย่างนี้เข้า ดิฉันก็ตัดสินใจยกเลิกแผนดูนกก่อนเลย ส่วนกิจกรรมการตกหมึก เขาก็ให้มาลงชื่อตอนค่ำ จะมีบริการพานักท่องเที่ยวออกเรือไปตกหมึกด้วยเบ็ดโยธะกา ซึ่งเทศบาลชะอำได้จัดให้มีกิจกรรมนี้เป็นแห่งแรกของประเทศ นี่เป็นที่มาของการจัดงานเทศกาล “กินหอย ดูนก ตกหมึก” ของเทศบาลเมืองชะอำค่ะ หลายคนคงข้องใจว่าทำไมงานที่น่าสนุกอย่างนี้จึงมาจัดกันช่วงฤดูฝน ซึ่งมีโอกาสสูงที่ฝนจะตกและมีลมพายุนั้น นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ เปิดเผยว่า เนื่องจากในช่วงฤดูฝน เป็นช่วงที่มีปลาหมึกในทะเลมาก และอยู่ใกล้ฝั่งพอที่นักท่องเที่ยวสามารถออกเรือไปได้สะดวก รวมทั้งในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีนกอพยพจากตอนเหนือของทวีปเข้ามาหาที่อบอุ่นอยู่อาศัยในชะอำ นอกจากนี้ ช่วงฤดูฝนถือเป็น ช่วงโลว์ซีซั่นของชะอำ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาน้อย ดังนั้น การจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง

       อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องหาที่เที่ยวฆ่าเวลาก่อนที่จะกลับมาที่หาดชะอำกันอีกที ในช่วงเย็นพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในค่ายพระรามหก จึงเป็นเป้าหมายของเราในเวลานั้น

       เมื่อแรกไปถึง เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่เปิดให้เข้าชม เนื่องจากฝนยังตกอยู่ เราก็ต้องขับรถออกมาหาอาหารกลางวันรับประทานกันหน้าค่ายก่อน ไม่มีทางเลือกไหนดีเท่าอาหารอีสานค่ะ ทั้งใกล้ ทั้งแซ่บ ดิฉันซึ่งโพสท์ข้อความในทวิตเตอร์ตลอดทาง ยังถูกผู้ติดตามแซวไปว่า อาหารอิสานกลับมากินที่กรุงเทพฯก็ได้ ขณะที่อีกหลายๆ คนก็ลุ้นไปกับโปรแกรมท่องเที่ยวที่ค่อนข้างทุลักทุเล

     เอาล่ะ..ท้องอิ่ม ฝนหยุดตก..เทวดาคงสงสารพวกเราบ้างแล้ว จึงเปิดโอกาสให้ได้เข้าชมความงดงามของพระราชนิเวศมฤคทายวัน แต่เจ้าหน้าที่ที่นั้นแสนจะเข้มงวด ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าผู้หญิงต้องนุ่งผ้าถุงคลุมทับกางเกงขาสั้นในเวลาเข้าชมนะคะ เพราะนั่นเป็นวัฒนธรรมไทยที่หลายคนควรจะตระหนักรู้อยู่แล้ว แต่ยังเข้มงวดเรื่องการตรวจกล้องวิดีโอ และห้ามบันทึกภาพไปเผยแพร่อีกด้วย ไม่ว่ากรณีใดๆ เว้นแต่จะต้องทำหนังสือขออนุญาตถ่ายทำเป็นลายลักษณ์อักษรเสียตั้งแต่ก่อนจะมา….วันนั้นทีมของเราซึ่งมีกล้องวิดีโอจึงถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ….เวลามาเจรจาก็จะทำหน้าตาและน้ำเสียงขึงขังมาก… (ผู้ช่วยดิฉันเล่าให้ฟังว่าเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วยังมีเจ้าหน้าที่โทรมากำชับอีกว่า หากบันทึกภาพอะไรมา ก็ห้ามเผยแพร่ ไม่เช่นนั้นจะฟ้องร้องดำเนินคดี) ฟังแล้วก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ ถ้าเขารู้ว่าดิฉันเป็นพวกที่หลงไหลเรื่องราวและสถานที่ประวัติศาสตร์เป็นที่สุด แถมยังชอบศึกษาค้นคว้าเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่ดีงามของคนในสมัยโบราณโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วยละก็..เขาอาจจะใช้พลังงานไปควบคุมคนที่ทำสิ่งที่เลวร้ายกว่านี้ก็เป็นได้..แต่ถึงอย่างไรนักท่องเที่ยวก็ต้องเคารพกฏกติกาและเคารพสถานที่นั้นๆค่ะ

     ได้ดื่มด่ำกับพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ได้ถ่ายภาพนิ่งและทวิตไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ยังพอมีเวลาก่อนจะกลับไปที่หาดชะอำ ก็เลยแวะทำบุญที่วัดถ้ำชะอำ กันค่ะ เห็นบันไดสูงชันขึ้นไปไหว้พระบนเขา ทีแรกก็ทำท่าจะไม่สู้ แต่พอมีคนหนึ่งท้าทาย ทุกคนก็เลยขึ้นไปไหว้พระบนถ้ำได้สำเร็จ เป็นสิริมงคล

     ตอนเย็นอากาศดี ลมพัดอ่อนๆ พวกเราก็มานั่งรับประทานอาหารทะเลที่จุดชมวิว หาดชะอำ ที่มีร้านรวงต่างๆ มาปรุงขายสดๆ กว่า 50 ร้าน เรากระจายกันซื้อหลากหลายเมนูมาแบ่งกัน โดยเฉพาะหอยสดๆ หลายชนิด เพื่อไม่ให้เสียชื่อว่ามางานกินหอย…

     ส่วนกิจกรรมตกหมึกนั้น เจ้าหน้าที่เขาบอกว่าจะออกเรือหลัง2 ทุ่มไปแล้ว และใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง ก็เลยโหวตยกเลิก เพื่อตั้งหน้าตั้งตากินกันให้พุงกางไปเลย อาหารทะเลที่ชะอำในวันนั้นน่ากินขนาดไหน ก็คลิกชมคลิปวิดีโอได้เลยค่ะ ถ้าเห็นแล้วอยากจะไปอร่อยบ้างก็เตรียมตัวไว้ปีหน้าก็แล้วกันนะคะ เพราะปีนี้เขาจัดตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน -3 ตุลาคม 2553 สิ้นสุดไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

(คลิกชมคลิปวีดีโอ)