Select Page

สวย เป๊ะ แซบ เว่อร์!! เทรนด์ “แร๊งส์!!” 2013

สวย เป๊ะ แซบ เว่อร์!! เทรนด์ “แร๊งส์!!” 2013

เมื่อโบกมือ บ๊ายบายปีเก่า เทรนด์เก่าจากปี 2012 ก็ดูจะเอาท์ไปทันที และเมื่อเริ่มศักราชใหม่ 2013 สิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดก็ดูจะจ่อคิวให้หนุ่มๆ สาวๆ อัพเดตเทรนด์ฮิตมากมาย มาเตรียมตัว ให้ “สวย เป๊ะ แซบ เว่อร์” ด้วยการอัพเดตเทรนด์ใหม่ๆ จะได้ไม่เอาท์
เทรนด์ฮิตต่อเนื่อง 

เป็นเทรนด์ฮิต 2012 ที่คาดว่าจะฮิตต่อเนื่องมาถึงปี 2013  “ดิสโก้ แพนท์” และ “เสื้อครอป” แฟชั่นแต่งกายสุดฮอตของปี 2012 ด้วยลักษณะของเสื้อที่เป็นเสื้อตัวสั้นน่ารักๆ เมื่อนำมาใส่กับ ดิสโก้ แพนท์  กางเกงรัดรูปฟิตเปรี๊ยะ ตึงโป๊ะ เหมาะกับสาวหุ่นเซี๊ยะ ทั้งทรวดทรงองค์เอว ไม่แปลกใจเลยที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็จะต้องมี 1 ใน 10 คนเลือกใส่เสื้อครอป และกางเกงดิสโก้ แพนท์ ให้เห็น ถือได้ว่าเป็นปีที่สาวๆ ขนความมั่นใจมาแต่งกายประชันหุ่นสวยกันอย่างเต็มที่ 

ฮิตแต่งหน้าโชว์ผิว-ทรงผมหั่นสั้น 

และเมื่อเทรนด์เก่าไปแล้ว ก็ถึงเวลาเรียนรู้เทรนด์ใหม่ เพื่อเตรียมตัวสำหรับต้อนรับปี 2556 อย่างชิคๆ

นภัสสร บุรณศิริ พิธีกร และบล็อกเกอร์ชื่อดัง ด้านบิวตี้ ที่จะมาแนะนำเทรนด์แต่งหน้าปีหน้า เล่าว่า กระแสที่จะฮอตอย่างต่อเนื่องเลยคือ “เทรนด์โชว์ผิว” ยังคงมาแรงต่อเนื่อง เป็นการแต่งหน้าที่คล้ายไม่แต่งหน้า ไม่หนาจนเกินไป ซึ่งจะทำให้สีต่างๆ ไม่โดดออกมามาก ทำให้เราต้องดูแลรักษาผิวหน้าของเราให้สุขภาพดีแม้อากาศจะแห้งก็ตาม อาจจะเพิ่มลูกเล่นเข้าไปโดย ช่วงซัมเมอร์ ก็อาจจะเน้นสีแต่ไม่หนักมาก ขณะที่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและหนาว ก็อาจจะต้องเน้นให้ดูโกลว์ 

“สีปาก” จะต่อเนื่องจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วคือปากสีหนัก จากสีชมพูสด เป็นสีส้ม และเป็นสีเข้มส่งท้ายปีจากควันหลงฮัลโลวีนด้วยสีเปลือกมังคุด คล้ายแวมไพร์ แต่ปีหน้าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือจะเป็นสีคลาสสิก ทาไม่ยากมากขึ้น เช่น เป็นแดงก็แดงจัด ที่มาแรงสุดสุด เห็นจะเป็นสีชมพูสด ไม่วาวหรือสะท้อนแสง ชมพูแบบไม่แฟชั่นจะกลับมา

ขณะที่ “ตา” คนจะแต่งตากันเบาลง ไม่เน้นอายแชโดว์มากนัก จะเน้นเพียงอายไลเนอร์ ช่วงซัมเมอร์หรือเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ก็อาจหาลูกเล่นให้กับอายไลน์เนอร์ได้โดยใช้อายไลเนอร์ที่เป็นสีดำอมม่วง ดำอมน้ำตาล หรือดำอมเขียวได้ เน้นให้ใกล้เคียงสีดำ แต่หากจะเล่นเป็นสีน้ำตาลก็ได้เช่นกัน แต่ต้องทำให้เข้ากันกับองค์ประกอบหน้าทั้งหมด เข้าเทรนด์กับสีผิว

ส่วนการแต่ง “คิ้ว” ที่ต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา แม้จะเข้มขึ้นเรื่อยๆ และมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้หน้าดูเด็กลง เพราะหากบางและโค้งจะทำให้หน้าดูแก่ แต่ก็ต้องรู้ตัวเองหากเข้มมากหลายคนไปไม่รอด จะดูลิเกมากเกินไป เพราะฉะนั้นจะแต่งอย่างไรต้องให้เหมาะสม

นอกจากนี้ หากอยากแต่งหน้าให้ดู “เทรนดี้” ก็สามารถนำเทรนด์ตาแบบนกยูง หรือเล่นสีมาใช้ด้วยได้ แต่ต้องมาปรับให้เข้ากับตนเอง ดูว่าสีไหนเข้ากัน และต้องค่อยๆ เพิ่ม อย่าตัดสินใจจะเปลี่ยนครั้งเดียว เพราะหากลองเลยโดยไม่มีทักษะ อาจแต่งหน้าออกมาได้ไกลตัว จะทำให้พลาดและไม่มั่นใจได้ 

สำคัญที่สุดคือ การแต่งหน้าสามารถนำเทรนด์มาเล่นให้สนุกได้ แต่ต้องไม่จำกัดตัวเองแค่เทรนด์มากเท่านั้น เพราะว่าการแต่งหน้าเทรนดี้คือแปลก แต่ไม่ได้สวย ซึ่งการแต่งหน้าที่สำคัญที่สุดก็คือแต่งให้สวย และทำให้เรามั่นใจ ที่สำคัญที่สุดคือต้องถูกต้องตามกาลเทศะ ไม่ทำให้เยอะเกินไปจนกระทบกับชีวิตประจำวัน


ด้าน ดร.สมศักดิ์ ชลาชล เจ้าของธุรกิจเสริมสวยชลาชล แฮร์สไตลิสชื่อดัง เผยถึงเทรนด์ผมในปี 2013 ว่า ผู้หญิงจะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นเวิร์กกิ้ง วูแมน ชอบอกกำลังกาย จะหันมาไว้ “ผมสั้น” มากขึ้น ไม่เหมือนผู้หญิงสมัยก่อนที่จะไว้ผมยาวเท่านั้น 

กระนั้น หนุ่มๆ ไม่ต้องวิตกกังวัลไป เพราะ “ผมยาว, ผมดัด” ก็ยังได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิงไทยหวานๆ ส่วนสีผมก็จะยังเน้นสีออกน้ำตาล สีคาราเมล สีช็อกโกแลต 

“ผู้หญิงจะคิดว่าตัวเองทัดเทียมกับผู้ชาย และมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งมีอิทธิพลมาจากหน้าที่การงาน การใช้ชีวิต และสถานการณ์บ้านเมืองที่ผู้หญิงเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ผู้หญิงมีความทะมัดทะแมง แข็งแกร่งมากขึ้น เมื่อข้างในมีความเข็มแข็ง จึงออกมาในรูปแบบของผมสั้นที่ดูเข้มแข็ง แต่ก็แผงไว้ด้วยความอ่อนโยน” ดร.สมศักดิ์เผย

เกาะติดแฟชั่นโลก 

แม้ว่าหน้าตาจะเป็นประตูบานแรก แต่เทรนด์แต่งตัวก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าหากแต่งตัวไม่รอดก็ดับได้เช่นกัน 

“จงกล ตั้งประดิษฐ์” บรรณาธิการแฟชั่น นิตยสารโว้ก ประเทศไทย เผยว่า แฟชั่นเครื่องแต่งกายในภาพหลักของซัมเมอร์หน้าจะเปลี่ยนจากสีนีออน สะท้อนแสง จะเปลี่ยนมาเป็นสีธรรมชาติแบบโทนสีพาสเทลมากขึ้น สีสันก็จะถูกปรับให้ซอฟต์ลง เช่น สีเขียวมะนาว สีเทอร์ควอยซ์ แต่ที่จะฮอตที่สุดคือสีเขียว และสีฟ้า

ขณะที่เสื้อผ้าแม้จะดูเซ็กซี่แต่ก็จะเน้นความเป็นผู้หญิงมากขึ้น เช่น กระโปรงทรงวงกลม ที่มีระบายมากขึ้นใช้เป็นผ้าโปร่งแสงมากขึ้น จากที่เคยเป็นชิ้นเล็กก็อาจเป็นกระโปรงยาวเลเยอร์ผ้าตาข่ายแบบที่เห็นกัน

ส่วนเครื่องประดับและแอกเซสเซอรี่ก็จะไม่เน้นใช้วัตถุดิบที่อวกาศมากนักเหมือนแต่ก่อน แต่จะผสมผสานความเป็น “ธรรมชาติ” มากขึ้นโดยใช้เทคนิคในการประยุกต์งานสาน งานถัก เข้ากับวัสดุใหม่ๆ ให้ทันสมัย จะไม่เน้นเครื่องประดับที่ทำจากวัสดุประเภทเหล็กและอะลูมิเนียมอีกต่อไป

ที่สำคัญคือปี 2013 จะเป็นปีของ “ดีไซเนอร์ไทย” อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าแบรนด์นอกจะเข้ามาตีตลาดไทยแรงเพียงใด แต่ดีไซเนอร์ไทยที่ได้ออกผลงานปีที่ผ่านมาก็ยังอยู่รอด ทำให้คนไทยที่ต้องการหาความแตกต่างและความเป็นตัวของตัวเอง ต้องเข้ามาอุดหนุนผลงานคนไทยอย่างแน่นอน

รู้แล้ว…ไม่มีเอาท์!!

 

ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันพุธที่ 2 มกราคม 2555 หน้า 19

About The Author

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.