สูตรลับสำเร็จ..เปลี่ยนตัวเองรับปีใหม่

สูตรลับสำเร็จเปลี่ยนตัวเองรับปีใหม่

          ใกล้จะปีใหม่เข้ามาทุกที ใครที่มีอะไรที่คั่งค้างอยากจะทำแล้วก็จะๆ อยู่นั่น เห็นทีคุณๆ จะต้องเตรียมเช็กลิสต์สิ่งที่คุณอยากปรับ อยากเปลี่ยนเพื่อเป็นคนใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
และประสบความสำเร็จต้อนรับปี 2553 กันบ้างแล้ว และต้องลงมือทำเสียทีอย่าผัดวันประกันพรุ่งต่อไปอีกเลย ถือโอกาสเริ่มต้นปีเช่นนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นๆ ลงมือทำวันนี้ เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่เริ่มนับหนึ่งแล้วเมื่อไหร่จะไปถึงเป้าหมายกันเสียที

รายงานโดย :อนุสรา ทองอุไร:
ที่มา: โพสท์ทูเดย์ วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เอ้า เริ่มกันเลย…
          ครั้นจะเปลี่ยนเฉพาะภาพลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียวก็ใช่ที่ ต้องเริ่มกันจากภายใน ทั้งความคิด ทัศนคติ รับรองได้ว่า คุณจะสนุกกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพราะแค่คิดที่จะเปลี่ยน ความสำเร็จก็ใกล้เข้ามาแล้ว
เราเลยมีเทคนิคดีๆ ที่ช่วยเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่จาก สถาบันเดล คาร์เนกี ประเทศไทย ผู้นำด้านการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มาฝากกันเพื่อเอาไว้เป็นตัวช่วย เพราะข้อดีของการปรับเปลี่ยนตัวเอง ยังช่วยเสริมเติมเสน่ห์ ให้เราเป็นที่รักของคนในครอบครัว เจ้านาย ลูกน้อง และช่วยให้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ อีกด้วย ลองนำเคล็ดลับเด็ดๆ เหล่านี้ไปใช้ ที่สำคัญถ้าได้ผลอย่าลืมบอกต่อเชียวนะ !!
เริ่มจัดการจากภายในจิตใจ ปรับเปลี่ยน พัฒนาวิธีคิดทัศนคติ กันเสียก่อน ด้วยเคล็ดลับเด็ดๆ ดังนี้

1.รู้จักคิดบวก
          คิดบวกย่อมได้บวก แนวคิดนี้ไม่มีล้าสมัย คนที่มองโลกในแง่ดีมักมีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่นเสมอ โดยส่วนใหญ่คนคิดอย่างไร มักจะแสดงออกหรือมีพฤติกรรมเป็นไปตามอย่างที่คิดไว้ คิดดี ทำดี ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น    ต้องเป็นเรื่องดี การคิดบวกจึงเป็นการมองสิ่งดีๆ ในทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นคน เหตุการณ์ และสิ่งต่างๆ รวมถึงการมองเห็นโอกาสดีๆ ท่ามกลางวิกฤต เพราะว่าความคิดมี 2 ด้าน คือ คิดทางบวก เปรียบได้กับออกซิเจน   และอาหาร ซึ่งมีประโยชน์และสร้างสรรค์ ส่วนความคิดทางลบนั้นเหมือนยาพิษ ที่มีแต่ทำลายและบั่นทอนจิตใจ ลองเลือกดูว่าคุณอยากจะเป็นคนที่คิดบวกหรือคิดลบ

2.เปิดใจรับรู้สิ่งใหม่
          เปิดใจรับฟังข่าวสาร ความคิดเห็นต่างๆ เรียนรู้กิจกรรมที่แปลกใหม่ เปิดรับเพื่อนใหม่โดยปราศจากอคติ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่มาขัดขวาง เพราะโลกนี้ช่างกว้างยังมีเรื่องราวและสิ่งใหม่ๆ อีกตั้งมากมายที่เรายังไม่รู้  ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เพราะประสบการณ์แปลกใหม่อาจนำพาโอกาสที่ดีในอนาคตมาให้คุณก็ได้ ใครจะรู้

3.อยู่กับปัจจุบัน
          เลิกฟุ้งซ่านซะทีกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง บางครั้งการจินตนาการก็ดีแต่ต้องเลือกใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา ควรพิจารณาสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าว่าเป็นอย่างไร พร้อมเตรียมหาหนทางรับมือหากเกิดปัญหาขึ้นเพื่อให้ปัญหาที่พบเจออยู่เบาบางลง และอย่าตื่นตกใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ทางที่ดีที่สุดคือ ทำตัวให้คุ้นเคยกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นได้เสมอในชีวิต ด้วยวิธีการเตรียมรับมือกับปัญหา ดังนี้
           – คิดว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้น สิ่งที่เลวร้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร
           – เตรียมใจรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดนั้น
           – หาวิธีจัดการกับสิ่งที่คิดว่าจะเกิดขึ้น

4.อย่าให้อดีตถ่วงความสุข
          เคยนึกย้อนถึงเรื่องราวในอดีต ว่าทำมั้ย ทำไม ไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ตัดสินใจเลือกแบบนี้ เลิกเสียดายหรือคร่ำครวญกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เพราะใครก็ไม่อาจแก้ไขอดีตได้ การมองไปข้างหน้า มองเป้าหมายในการดำเนินชีวิตให้ชัดๆ ดีกว่ามานั่งเสียดายกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เพราะสิ่งที่เราตัดสินใจหรือเลือกแล้วย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่ว่ามาเป็นเทคนิคมาจัดการกับจิตใจ ความคิดและทัศนคติ ต่อมาต้องเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงภายนอกกันบ้าง ด้วยเคล็ดลับเด็ดๆ ดังนี้

5.ยิ้ม
          เปลี่ยนตัวเองด้วยรอยยิ้ม เป็นเหมือนสะพานที่ช่วยเชื่อมมิตรภาพกับคนรอบข้าง ทดลองง่ายๆ เพียงตื่นเช้ามาลองยิ้มให้กับตัวเองที่หน้ากระจก จากนั้นก็ยิ้มให้กับผู้อื่นดูบ้าง ทั้งเพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน สามี ภรรยา พนักงานเสิร์ฟ ฯลฯ รับรองได้รับรอยยิ้มกลับคืนมาแน่นอน แรกๆ อาจมีเขินๆ บ้าง แต่ถ้าฝึกฝนไว้จนชิน จนกลายเป็นธรรมชาติของเราที่ยิ้มออกมาจากใจ ไม่ใช่แค่เสแสร้ง รวมถึงการใช้รอยยิ้มช่วยแบ่งเบาความทุกข์ร้อนของคนรอบข้าง เมื่อมีปัญหาก็ช่วยบรรเทาทุกข์กังวลที่มีอยู่ได้ หากคุณทำด้วยความจริงใจ วันนี้ลองยิ้ม ดูสิ วิธีแสนง่ายไว้ใช้ผูกมิตร ที่ไม่ต้องเสียอะไรเลย เพราะรอยยิ้มเป็นยาบำบัดทุกข์ชั้นเลิศ

6.เอาใจใส่ผู้อื่นอย่างจริงใจ
           พื้นฐานง่ายๆ ที่เริ่มต้นได้ด้วยตนเอง แค่รู้จักถามไถ่สารทุกข์สุกดิบคนรอบข้าง ด้วยประโยคง่ายๆ อย่าง “ทานข้าวหรือยัง, สบายดีไหม, เป็นอย่างไรบ้าง” คำเรียบง่าย ที่ได้ฟังเมื่อไหร่ก็รู้สึกประทับใจและสัมผัสได้ถึงความห่วงใยของผู้ถาม ยิ่งในยามที่มีทุกข์ด้วยแล้วคำเรียบง่ายแบบนี้จะช่วยสร้างความชุ่มชื่นใจ ได้มากเลยทีเดียว ที่สำคัญต้องทำด้วยความจริงใจ ใส่ใจอย่างแท้จริง

7.หมั่นสร้างความประทับใจ
          การหัดจำชื่อและนามสกุลของบุคคลต่างๆ รวมถึงข้อมูลครอบครัว ความชอบส่วนตัว อาหาร เสื้อผ้า สไตล์การแต่งตัว จะช่วยสร้างความประทับใจได้เช่นกัน เมื่อคุณพบกันอีกอาจถามไถ่ถึงครอบครัว ความเป็นอยู่เป็นการให้เกียรติผู้ฟังและแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดรอบตัว คนส่วนใหญ่จำชื่อคนอื่นไม่ได้ด้วยเหตุผลง่ายๆว่าไม่มีเวลาที่จะจดจำ แต่ถ้าเริ่มทำตั้งแต่วันนี้สละเวลาสักนิดจดจำชื่อและสิ่งรอบตัว รับรองได้ใจคนรอบข้างแน่นอน

8.ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ
          เทคนิคสร้างสุขเล็กๆ น้อยให้กับคนรอบข้างด้วยการชื่นชมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน การทำให้คนอื่นรู้สึกเป็นคนสำคัญ ได้รับการยกย่องนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ หลักง่ายๆ ที่ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือ “จงปฏิบัติต่อ     ผู้อื่นเช่นเดียวกับที่ท่านต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่าน” แต่จะทำอย่างไร? ทำเมื่อไหร่? ทำที่ไหน? คำตอบคือ ทำตลอดเวลาและทำทุกที่ที่ไป

9.เป็นผู้ฟังที่ดี
          เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ฟังที่ดี หลักง่ายๆ ด้วยการ ฟังอย่างตั้งใจและให้ความสนใจในสิ่งที่ผู้อื่นพูด และแสดงความสนใจใฝ่รู้ในสิ่งที่ผู้อื่นพูดด้วยใจจริง ใช้เทคนิคการเป็นผู้ฟังที่ดี ดับความโกรธของผู้อื่นด้วยการรับฟังปัญหาต่างๆ อย่างตั้งใจ เมื่อเขาระบายความโกรธจนเย็นลงค่อยอธิบายความเห็น ไม่ว่าคนที่กำลังโมโหรุนแรงแค่ไหนก็สงบลงได้ ถ้ามีผู้รับฟังอย่างอดทนและจริงใจ ถ้าอยากเป็นนักพูดที่ดี ต้องรู้จักเป็นผู้ฟังอย่าง     ตั้งอกตั้งใจ “ต้องสนใจ จึงจะได้รับความสนใจ”

10.พูดในสิ่งที่ผู้ฟังสนใจ
          ใส่ใจสิ่งรอบตัวของผู้อื่น ความสนใจส่วนตัว กิจกรรมยามว่าง กีฬาที่ชอบ อาหารที่ชอบ สัตว์เลี้ยงตัวโปรด รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ช่วยสร้างความประทับใจและช่วยให้มีเรื่องพูดคุยกันนานยิ่งขึ้น
ได้เทคนิคดีๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะเป็นตัวช่วยในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต จากสถาบันเดล คาร์เนกี ประเทศไทย ไปแล้ว ลองนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ รับรองได้ว่าคุณจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ จนคนรอบข้างพากันอิจฉาถึงความสำเร็จของคุณ