Select Page

อัจฉริยะเด็กไทยวัย 7 ขวบ ที่ดังลือลั่น ในโลกไซเบอร์

อัจฉริยะเด็กไทยวัย 7 ขวบ ที่ดังลือลั่น ในโลกไซเบอร์

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี” อัจฉริยะเด็กไทยวัย 7 ขวบ ที่ดังลือลั่นโลกในโลกออนไลน์ หลังมีคนคลิกเข้าไปดูผลงานการแสดงไวโอลิน เมื่อครั้งน้องเขามีอายุเพียง 4 ขวบ แต่สามารถเล่นได้ราวมืออาชีพมากกว่า 7 ล้านครั้ง ในเว็บไซต์ยอดนิยม “Youtube” และนับเป็นสถิติสูงที่สุดของโลก ในประเภทบันทึกการแสดงไวโอลิน

          จากกรณีด.ช.ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี อายุ 7 ขวบ โด่งดังไปทั่วโลกจากคลิปแสดงไวโอลินเมื่ออายุ 4 ขวบ ในเว็บไซต์ยูทูบ มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดกว่า 7 ล้านครั้ง นับเป็นสถิติสูงที่สุดของโลกในคลิปการเล่นไวโอลิน และยังมีจำนวนผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละวัน สร้างความประทับใจให้ผู้เข้าชม กระทั่งได้รับฉายาว่า “โมสาร์ทน้อย” นอกจากไวโอลินแล้ว หนูน้อยยังมีความสามารถด้านการเรียน ภาษาอังกฤษ กอล์ฟ และกังฟูด้วย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

          เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ด.ช.ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี พร้อมด้วยนายธนู เปลวเทียนยิ่งทวี อายุ 60 ปี และนางวัชราภรณ์ เปลวเทียนยิ่งทวี วัย 49 ปี บิดาและมารดา รับเชิญออกรายการโทรทัศน์หลายรายการ อาทิ รายการข่าวทางช่อง 3 ราย การเรื่องเด่นเย็นนี้ โดยสรยุทธ สุทัศนะจินดา รวมถึงรายการของกนก รัตน์วงศ์สกุล และรายการ 07 โชว์

          ต่อมาเวลา 18.00 น. นายธนู เปลวเทียนยิ่งทวี และนางวัชราภรณ์ เปลวเทียนยิ่งทวี บิดาและมารดา พร้อมด.ช.ธนัช ซึ่งปัจจุบันอายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้นป.2 โครงการอัจฉริยภาพ โรง เรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ฯ (ฝ่ายประถม) เดินทางมายังกองบรรณาธิการข่าวสด โดยด.ช.ธนัชสวม ชุดทักซิโดแสดงความสามารถเดี่ยวไวโอลินในบทเพลง “Elves Dance” ของ Jenkinson ซึ่งเป็นบทเพลงในจังหวะเร็ว สนุก สอดรับกับเรื่อง ราวในบทเพลงที่เล่าถึงเทวดาเอลฟ์ที่กระโดดไปมา โดยไม่ต้องกางโน้ตหรือมองปลายนิ้วเหมือนเช่นที่เคยแสดงในยูทูบ ความสามารถของด.ช.ธนัชที่แสดงในครั้งนี้บ่งบอกให้เห็นถึงพัฒนาทางด้านการสีไวโอลินและดนตรีคลาสสิคที่เพิ่มมากขึ้นตามวัย 

          จากนั้นผู้สื่อข่าวนำหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาอังกฤษ มาทดสอบความสามารถของด.ช.ธนัช ซึ่งหนูน้อยอ่านคำพาดหัวข่าวหน้า 1 พร้อมรูปเพียงปราดเดียวก็ตอบว่า ม็อบแดงร้อน และกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปชุมนุมที่บ้านพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี และระหว่าง คุณพ่อคุณแม่ให้สัมภาษณ์ น้องธนัชได้อ่านหนังสือพร้อมกับทดสอบเกมในหนังสือ “เล่นสนุกกระตุกกึ๋น” เพื่อฝึกทักษะด้านคณิตศาสตร์ ของตนเองอยู่ตลอดการสัมภาษณ์ช่วง 1 ชั่วโมง

          ด.ช.ธนัช กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ช่วงเช้าไปถึงโรงเรียนนำข่าวนี้ไปให้คุณครูดู คุณครูทราบข่าวแล้วและให้ไปยืนอ่านให้เพื่อนๆ ฟังหน้าชั้นเรียน ซึ่งเพื่อน ๆ ทุกคนต่างก็ทราบข่าวแล้วเช่นกัน การเล่นไวโอลินไม่ยาก ถ้าเราตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องทำให้สำเร็จ ทุกย่างก้าวต้องเดินไปด้วยความสนุก ถ้าทุกย่างก้าวเดินไปด้วยความทุกข์ เมื่อเราไปถึงจุดหมายแล้วเราจะมีความสุขแค่ 2 – 3 วินาทีเท่านั้น

          นายธนู กล่าวว่าหลังปรากฏเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ข่าวสด ได้รับการติดตามจากสื่อต่างๆ และรายการต่างๆ มากมาย ทุกคนบอกตรงกันว่า ข่าวนี้นับเป็นข่าวดีท่ามกลางสถานการณ์ข่าวที่แวดล้อมไปด้วยข่าวความขัดแย้งต่างๆ ภายหลังจากที่ภรรยาโพสต์การแสดงของบุตรชายลงในยูทูบ เราก็เข้าไปเช็กเม้นต์ พร้อมกับเช็กยอดการเข้าชมหรือการคลิกเป็นระยะ กระทั่งพบว่าคลิกของลูกมีคนเข้าชมมากเป็นอันดับ 1 ถึงกว่า 7 ล้านครั้ง มากกว่าวาเนสซ่า เมย์ ซึ่งอยู่ที่ 3 ล้าน ขณะที่คลิป ไอแซก เพอร์แมน นักไวโอลินชื่อดังระดับโลก มีคนคลิกชมในระดับแสน จึงเริ่มคุยกับภรรยาว่าเราต้องเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป เพราะเห็นว่าข่าวในเมืองไทยช่วงที่ผ่านมามีแต่ข่าวในทางไม่ดี อยากให้สังคมไทยได้เบิกบานกับข่าวดี ๆ กันบ้าง 

          “อย่างเช่นคุณสรยุทธ (สุทัศนะจินดา) เล่าว่าเห็นข่าวจากข่าวสดและเข้าไปดูในยูทูบแล้ว บอกกับผมว่าอยากให้มาออกรายการหน่อย เพราะอยากให้ข่าวดี ๆ มาลบข่าวด้านลบ ผมจึงตัดสินใจพาลูกไปออกรายการ” นายธนู กล่าว

          คุณพ่อน้องธนัชกล่าวต่อว่า ขณะนี้ด.ช. ธนัชเริ่มมีแววความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ สสวท.ติดต่อเข้ามาขอเอานักวิชาการมาพูดคุย โดยนำหนังสือด้านคณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ ในระดับมัธยมศึกษา มาตั้งไว้ให้เป็นกองพะเนิน ปรากฏว่าธนัชชอบอ่านมาก เพราะปกติเขาจะชอบเรื่องราวเกี่ยวกับเซลล์ในร่างกายอยู่แล้ว ขณะที่มีสำนักพิมพ์ส่งหนังสือด้านกลยุทธ์ในรูปแบบการ์ตูนมาให้ เขาก็ชอบอ่าน และเขายังชอบอ่านสามก๊กและซุนวู และนำกลยุทธ์ที่กองทหารขนาบคุ้มกันกองเสบียงมาปรับใช้ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลระหว่างชั้นเรียน สำ หรับความสามารถด้านศิลปะซึ่งผลงานของ ด.ช. ธนัชนำออกมาประมูลและขายได้ไปทั่วโลกว่า 2 พันชิ้น ปัจจุบันก็ยังไม่ทิ้งด้านนี้ ยังคงวาดภาพแนวแอ๊บสแตร็กอยู่ ซึ่งผลงานจะซับซ้อนมากขึ้น

          “อยากบอกคุณพ่อคุณแม่ทุกคนว่า เด็กทุกคนเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ ทุกบ้านมีเหมืองเพชรเหมืองพลอยทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าพ่อกับแม่จะเจียระไนเพชรพลอยนั้นหรือไม่อย่างไร และพัฒนาต่อเนื่องหรือเปล่า หลายคนอาจเห็นว่าลูกยังเล็กอย่าเพิ่งสอน รอให้โตก่อน ซึ่งอาจสายไปเสียแล้ว ขณะที่เราเชื่อว่ายิ่งให้ลูกฝึกเรียนได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น เราต้องดูสิ่งที่เขาสนใจ สิ่งที่เขาทำ สิ่งที่เขาพูด และเขาต้องมีความสุขในสิ่งที่ทำ” นายธนู กล่าว

          นางวัชราภรณ์ เล่าว่า เริ่มแรกที่เห็นแววอัจฉริยะของเขา คือปกติเราจะเปิดเพลงสำหรับเด็กให้ลูกฟังในรถตั้งแต่เล็ก ๆ สลับไปเรื่อย ๆ ทั้งไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส วันหนึ่งลูกในวัยขวบครึ่ง ทักว่าเพลงนี้เหมือนเพลงเอโรแวดเลย ก็แปลกใจเพราะเป็นเพลงเดียวกับที่เคยเปิดซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส ทั้งที่ผู้ใหญ่ฟังไม่ออก จึงคิดว่าลูกน่าจะมีหูทางดนตรี จึงเริ่มทดสอบเพลงอื่นๆ เขาก็บอกได้อีก นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เห็นความพิเศษในตัวลูก จึงให้เขาเริ่มเรียนดนตรีพร้อมฝึกฝนด้านศิลปะ ทั้งสองสิ่งช่วยทำให้เขามีสมาธิ เป็นผลให้เรียนรู้วิชาการและเรื่องต่าง ๆ ได้ดี พอขึ้นชั้นป.1 เริ่มฉายแววด้านคณิตศาสตร์ ในช่วงนี้เริ่มเห็นแววด้านวิทยาศาสตร์ โดยลูกจะเรียนรู้จากหนังสือวิชาการที่เป็นการ์ตูน จะอ่านทั้งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี รวมถึงศาสนา และชอบการสวดมนต์ 

          “การที่นำการแสดงของลูกในวันนั้นขึ้นยูทูบเพราะเราคิดว่ามันโชว์ได้ โดยเริ่มโพสต์ความสามารถของเขาตั้งแต่ วัย 4 ขวบ เรื่อยไปจนถึง 7 ขวบ ซึ่งเล่นบทเพลงคอนแชร์โต้ ปรากฏว่าได้รับความนิยมมากเช่นกัน การเล่นไวโอลินเขาจะใช้การจำทำนอง เป็นเด็กที่มีความสามารถในการฟัง อย่างเช่นเคยได้ยินลูกฮัมเพลง “บิวตี้ฟูล ซันเดย์” ในห้องน้ำ ทั้งที่เขาเพิ่งฟังไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น” นางวัชราภรณ์กล่าว

          ดร.สุวรรณา วังโสภณ ผู้จัดการทั่วไป สถาบัน ดนตรียามาฮ่า (สยามกลการ) และอาจารย์พิเศษ คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ และโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการนานาชาติ กล่าวว่า ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้ชมการแสดง ของด.ช.ธนัชบอกตรง ๆ ว่าเป็นเด็กที่มีความจำเป็นเลิศจริง ๆ และมีสมาธิที่ดีมาก การเล่นไวโอลินต่างจากการเล่นเปียโนที่ต้องหาพิทช์หรือระดับเสียงเอง แต่ด.ช.ธนัชเล่นไวโอลินและหาระดับเสียงบนสายไวโอลินได้ทั้งหมด แสดงว่ามีโสตประสาทการฟังที่ดีเยี่ยม ระดับเสียงโด เร มี ฟา ซอล นั้นอยู่ในหูของเขา ดังนั้นไม่ว่าจะฟังอะไรมาก็จับระดับเสียงได้ตรงและหาระดับเสียงได้ เด็กคนนี้ต้องได้รับการฝึกฝนดนตรีตั้งแต่เล็ก ๆ ในด้านการฟัง และยิ่งอยู่ในวัยเด็กๆ และบวกกับการได้ฝึกการฟังเป็นการพัฒนาโสตประสาท ทำให้เด็กมีระดับเสียงที่แม่นยำ ซึ่งพ่อแม่ควรส่งเสริมให้ได้ฟังเยอะ ๆ 

          ดร.สุวรรณา กล่าวถึงความสามารถของเด็กไทยว่า เด็กไทยมีศักยภาพทางด้านดนตรี มีพื้นฐาน เพียงแต่เขาจะได้รับการส่งเสริมหรือไม่ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เด็กทุกคนมีพรสวรวค์ มีกิ๊ฟ เต็ดอยู่ในตัวถ้าได้รับการส่งเสริม บ่มเพาะ ครูผู้สอน พ่อแม่หรือผู้ปกครองจะส่งเสริมได้หรือไม่ เมื่อมีการค้นพบแล้วการพัฒนาศักยภาพที่ค้นพบก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ขึ้นอยู่กับครูและผู้ปกครองอีก เด็กทุกคนมีของดีในตัว เราต้องพยายามหาสิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่และส่งเสริมต่อ หากเด็กเก่งแต่ไม่ได้รับการส่งเสริมการพัฒนาก็จะอยู่กับที่

          ด้านครูอ้อมพร โฆวินทะ วัย 32 ปี ครูสอนไวโอลินน้องธนัช ที่อัลเบิร์ด สตูดิโอ นักไวโอ ลินจากวงบางกอก ซิมโฟนี ออร์เคสตรา กล่าวว่า เป็นเด็กขยันรับผิดชอบ มีวินัย ทุ่มเทและเชื่อฟังพ่อแม่และครูดีมาก ส่วนการเล่นดนตรีเป็นเด็กที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเป็นที่น่าพอใจมากถ้าเทียบกับอายุ ความสามารถอยู่เหนือค่าเฉลี่ย ส่วนการเล่นไวโอลินอยู่ในระดับอินเตอร์มีเดียใกล้แอดวานซ์ แม้อายุน้อยแต่เขาก็เล่นเพลงที่มีระดับสูงได้บ้างแล้ว และเขาเริ่มเล่นเพลงที่มีเทคนิคยากขึ้นแล้ว แต่ในสตูดิโอก็มีเด็กคล้ายธนัชอีก และธนัชอยู่ในกลุ่มเด็กที่เก่ง ซ้อมทุกวันและทุ่มเท เพราะการเล่นไวโอลินไม่ง่าย เด็กที่มาเล่นจะได้ดีต้องจริงจัง ใส่ใจ ซ้อมให้ถูกวิธีและต้องเรียนให้ถูกแบบแผนในเรื่องพื้นฐานตั้งแต่ต้น พ่อแม่และครูต้องช่วยกันปั้นตั้งแต่ต้น พ่อแม่ของธนัชให้ความสำคัญกับพื้นฐานแต่ต้นและมีความเข้าใจเป็นอย่างดี 

          “การแสดงในยูทูบ เขาเป็นเด็กที่มีความน่ารัก เอ็นเตอร์เทนเนอร์ ส่งสายตากับคนดู ให้รู้สึกสนุกเป็นธรรมชาติ เขาสนุกที่จะพรีเซนต์ ปกติเขาก็เป็นเด็กน่ารัก คุยสนุก ไม่ค่อยกลัวคน สุภาพเรียบร้อย”

 ที่มา: นสพ.ข่าวสด

ขอขอบคุณ: Youtube.com สำหรับวิดีโอประกอบ

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.