Select Page

สธ.ชี้“เมล็ดสบู่ดำ”อันตรายมีพิษอาจถึงตาย

สธ.ชี้“เมล็ดสบู่ดำ”อันตรายมีพิษอาจถึงตาย

กระทรวงสาธารณสุข เตือนภัย “เมล็ดสบู่ดำ” มีสารพิษอันตราย พิษอาจถึงตาย ห้ามนำมากินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากในเมล็ดมีสารพิษเรียกว่าเคอซิน ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาจถึงตายจึงขอเตือนให้ผู้ปกครอง ให้ระมัดระวังลูกหลาน อย่านำเมล็ดสบู่ดำมากินอย่างเด็ดขาด

     โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือนภัย “เมล็ดสบู่ดำ” มีสารพิษอันตราย พิษอาจถึงตาย ห้ามนำมากินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากในเมล็ดมีสารพิษเรียกว่า”เคอซิน” ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาจถึงตาย ขอให้ผู้ปกครองให้ระมัดระวังลูกหลาน ขณะนี้มีรายงานมีเด็กนักเรียนที่ลพบุรี ได้รับพิษไปกว่า 10 ราย แพทย์รักษาทัน     จากที่มีข่าวเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเมืองใหม่ชะลอราษฎร์รังสฤษฎ์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดลพบุรี จำนวนกว่า 10 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาล เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 เนื่องจากมีอาการอาเจียน ปวดท้อง ภายหลังกินเมล็ดสบู่ดำ ซึ่งแพทย์ได้ล้างท้อง จนอาการปลอดภัยทุกรายแล้ว
     เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว วันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2553) นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะพบได้ทุกปี สบู่ดำเป็นไม้พื้นบ้าน มักนิยมปลูกเป็นแนวรั้วบ้าน ชาวบ้านเรียกว่ามะเยา สบู่ขาว มะหัว มะหุ่งฮั้ว สลอดป่า มะหุ่งเทศ ละหุ่งเทศ มาเคาะ ชาวเขมรเรียกว่ากะแย โดยเปลือกลำต้นและใบของสบู่ดำ มีประโยชน์ทางการแพทย์ เปลือกสามารถนำมาต้มใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร สมานแผล แก้เหงือกอักเสบ ส่วนใบของสบู่ดำทำเป็นยาชงแก้ไอ ทำเป็นยาต้มแก้ท้องเสีย ลดไข้ แก้ไอ

      ทั้งนี้เมล็ดสบู่ดำ ประกอบด้วยน้ำมัน 35-40 เปอร์เซ็นต์ เนื้อ 55-60 เปอร์เซ็นต์ เมื้อเคี้ยวจะทำให้มีรสชาติมันๆ หลังกินประมาณ 30-60 นาทีจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด รายที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการมือเท้าเกร็ง หายใจเร็ว หอบ ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดปกติ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยอาการรุนแรงมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไป ในปี 2549 พบเด็กได้รับพิษเนื่องจากกินเมล็ดสบู่ดำกว่า 100 ราย จึงขอเตือนให้ผู้ปกครอง ให้ระมัดระวังลูกหลาน อย่านำเมล็ดสบู่ดำมากินอย่างเด็ดขาด

     นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อไปว่า ส่วนที่เป็นพิษของสบู่ดำได้แก่ เมล็ดและยาง โดยผลของสบู่ดำมีลักษณะเป็นพู ส่วนมากจะมี 3 พู เวลาสุกจะมีสีเหลือง ในเมล็ดของสบู่ดำ มีสารโปรตีนที่มีชื่อว่าเคอซิน (Curcin) ส่วนยางสบู่ดำมีสารพิษชื่อโฟบอล อีสเตอร์ (Phorbal ester) หากน้ำยางถูกผิวหนัง จะเกิดอาการระคายเคือง บวมแดง ปวดแสบ ปวดร้อนอย่างรุนแรง หากเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบ อาจบอดชั่วคราวได้

     “ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนไทย นำสมุนไพรมาใช้ในการดูแลสุขภาพ ทดแทนยาแผนปัจจุบัน แต่การใช้สมุนไพรนั้น ประชาชนมักจะเข้าใจผิดอยู่เสมอว่า สมุนไพรทุกตัวไม่เป็นพิษ หรือใช้ได้หมดทุกส่วน จึงต้องเร่งให้ความรู้ความเข้าใจประชาชน ในการใช้สมุนไพรให้ถูกต้อง ” นายแพทย์สุพรรณ กล่าว

     นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่ออีกว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับพิษจากสบู่ดำ หากยางสบู่ดำถูกผิวหนัง ขอให้รีบล้างน้ำและฟอกสบู่ทันที ส่วนผู้ที่ได้รับพิษจากการกินเมล็ดสบู่ดำเข้าไป การช่วยเหลือเบื้องต้น ให้ดื่มนมจำนวนมาก หรือทำให้อาเจียนเพื่อเอาพิษออกจากกระเพาะอาหาร และรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อไป

แหล่งข่าวโดย…. สำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.