Select Page

ซับน้ำตา ปักธงชัย

ซับน้ำตา ปักธงชัย

“แม้น้ำจะท่วมมากเพียงใด แต่น้ำใจคนไทยมีมากกว่า….นักเรียนโรงเรียนต่างๆในอำเภอ ปักธงชัยกว่า 40 โรงเรียนต่างดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือจากพี่น้องชาวไทยโดยมีครอบครัวข่าว 3 เป็นสื่อกลาง

 

เรื่อง: อนุสรณ์ มีบุญ   \   ภาพ: ชัยเวช ดวงมั่น          นิสิตฝึกงาน

             เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมาครอบครัวข่าว 3 พร้อมด้วย ดารานักร้องนักแสดงและมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2010 เป็นตัวแทนพี่น้องชาวไทยมอบสื่อการเรียนการสอนในโครงการ “คาราวานสื่อการเรียนการสอน ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม 2553 ครอบครัวข่าว 3” นำร่องลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ 40 โรงเรียนที่อำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา ก่อนหน้านี้หลายท่านอาจได้ติดตามข่าวที่น่าตกใจว่าโคราชจมบาดาลทั้งเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งอพยพประชาชนหนีน้ำ แทบไม่ทัน ทั้งที่เมืองโคราชนั้นอยู่ในที่ราบสูงไม่เคยมีใครคิดว่าจะเกิดเหตุน้ำท่วมที่รุนแรงเช่นนี้

               จากการสัมภาษณ์ คณะครู นักเรียน และชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้พบว่าทุกคนต่างดีใจที่ยังมีหน่วยงานต่างๆให้ความสำคัญ  แม้ว่าเหตุการณ์น้ำท่วมจะผ่านพ้นไปหลายวันแล้ว  แต่โรงเรียนในอำเภอปักธงชัยซึ่งได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติเป็นจุดแรกๆยังคงมีร่องรอยความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมเที่กิดขึ้น โดยโรงเรียนที่มีความเสียหายต่ำสุดประมาณ 40,000 บาท และเสียหายสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 1,620,000 บาท สรุปแล้วมีผู้เสียหาย ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2553 เป็นครูและนักเรียนจำนวน 7,678 คน เป็นเงินมูลค่ากว่า 11,914,300 บาท

                 สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปีนี้เกิดขึ้นและขยายวงกว้างไปในหลายพื้นที่  ความช่วยเหลือจากภาครัฐก็ไม่ทันท่วงที ครอบครัวข่าว 3 จึงเป็นองค์กรหนึ่งที่ช่วยบรรเทาทุกข์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นสื่อกลาง การระดมพล สิ่งของเครื่องใช้ และเปิดรับบริจาคเงินไปช่วยเหลือ พร้อมหน่วยงานเอกชนตั้งซุ้มให้บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจากโรงเรียนเทคโนโลยี-ชนะพลขันธ์ และวิทยาลัยเทคนิคราชสีมา

                คุณ มโนประภา กลัดภิบาล ผู้ประสานงานโครงการคาราวานสื่อการเรียนการสอนฯเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์นี้ทางผู้บริหารบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ได้มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยเงินที่ได้รับบริจาค จากภาคประชาชนมาแบ่งเป็นโครงการต่างๆเพื่อช่วยซับน้ำตาให้แก่ผู้ประสบภัยและคาราวาน 3 สื่อการเรียนการสอนฯ โดยได้นำ สิ่งของอุปกรณ์การเรียนการสอน ชุดเครื่องนอนสำหรับเด็กอนุบาล สายไฟ โต๊ะญี่ปุ่น ฯลฯ  มอบให้โรงเรียนต่างๆทั้งนี้มีภาคเอกชนเข้าร่วมด้วยเช่น สำนักพิมพ์แมก ที่ได้นำหนังสือเรียนและหนังสือนิทานมาร่วมบริจาคในโครงการนี้ และมองว่าการช่วยเหลือชาวไทยในครั้งนี้เป็นสัญชาตญาณที่คนไทยทุกคนมีอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องตระหนักรู้กันได้แล้วว่าธรรมชาติต้องการเตือนอะไรคนไทย และคนทั้งโลก พวกเราควรหาทางป้องกันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมา โดยที่สำคัญที่สุดในสังคมไทยเราคือ “ทำอย่างไรให้อยู่ในการศึกษา ทำอย่างไรให้เกิดเป็นทัศนคติที่จะให้ทุกคนรักษ์และหวงแหนในธรรมชาติ ทำอย่างไรให้เยาวชนไทยรุ่นหลังนั้นไม่ใช่แค่ทำ หรือรณรงค์แค่เพียงฉาบฉวย พอหมดกระแสก็หยุดนิ่งไม่ได้คิดที่จะรณรงค์อย่างต่อเนื่อง แต่ให้ทุกคนทำตลอดเมื่อมีโอกาส  เพียงเท่านี้ก็จะไม่เกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงขนาดนี้”

                จากเหตุการณ์ครั้งนี้ถึงเป็นการช่วยเหลือในเบื้องตันที่คนไทยในหลายๆภาคส่วนช่วยกัน จะเห็นได้ว่าแม้เป็นเพียงกำลังเล็กๆที่มีจิตใจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เมื่อมารวมกันช่วยจริงจังก็สามารถทำงานที่ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ หากคนไทยรักกันและช่วยเหลือเกื้อกูลกันแบบนี้ทุกครั้งไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายประเทศไทยก็จะยังคงเป็นประเทศที่สวยงามและอบอุ่นตลอดไป

About The Author

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.