เชฟหัวทองใจไทย
มร.เดวิด ทอมป์สัน เชฟชาวออสซี่ระดับไฮโซ ที่หลงรักหัวปักหัวปำของกินข้างถนนในเมืองไทยถึงกับเชิดชูให้ ติดอันดับอาหารริมทางชั้นยอดที่สุดในโลก เท่านั้นไม่พอยังออกพ็อกเกตบุ๊ก “THAI STREET FOOD” หนา 370 หน้า!!! ร่ายถึงมนตร์สิเน่หาทั้งรสชาติ+หน้าตา+เครื่องปรุง
ยิ่งกว่านั้น พี่ทอมป์สันยังรู้ลึกรู้จริงถึงนิสัยการรับประทานอีกด้วยว่า “คนไทยไม่ได้มีเพียงของว่างระหว่าง 3 มื้อ แต่เป็นของว่างระหว่างของว่างง่ายๆ คือ กินจุบจิบตลอดเวลา” ซึ่งเจ้าของหนังสือเองก็ยอมรับว่าจะมีใครอดใจไหวกับฟาสต์ฟู้ดแนวไทยๆ ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ของยั่วน้ำลายชวนให้ลิ้มความอร่อยได้?
และจากการศึกษาข้อมูลอุปนิสัยคนไทยจนรู้ลึกว่า แต่เก่าก่อนคนไทยมักทานข้าวบ้าน แต่พอมาสมัยปี’60 การพัฒนาเชิงอุตสาหกรรมเติบโตเร็ว ทำให้คน ตจว.ละทิ้งถิ่นฐานทุ่งนาการเกษตรเข้าสู่วงโคจรกลจักรตามโรงงาน ผลที่ตามมาคือร้านอาหารสารพันเมนูตั้งขายกันบานเป็นดอกเห็ด
ตัวเขาก็มักใช้เวลาส่วนใหญ่ที่กลับมาเที่ยวไทยคอยตระเวนหาของกินตามข้างทางแทนเข้าครัวเพราะมองว่า ของกินที่ทำเสร็จใหม่ๆแล้วมาตั้งขายนั้น มันดูแฟนตาซีมาก!!
หนุ่มใหญ่วัย 49 ปี เดินทางจากนครซิดนีย์มาท่องเที่ยวไทยครั้งแรก พ.ศ.2529 ก็ตกหลุมรัก “ใช่เลย” ทันที จนกลายเป็นบ้านหลังที่ 2 แต่ครั้งนั้นยังเมินๆ อาหารไทย กระทั่งศึกษาเคล็ดลับกับ Sombat Jan– petchara เพื่อนหญิงไทย เจ้าตำรับอาหารไทยสูตรชาววัง (เสียชีวิตแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน) เป็นเวลา 6 เดือน เรียนรู้ทุกขั้นตอน แล้วกลับไปเปิดร้านอาหารไทยชื่อ “ดาร์ลีย์ สตรีท ไทย” ที่บ้านเกิด
อีก 10 ปีต่อมาก็ไปเปิดร้าน “Nahm” บนถนนฮาร์คิม ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จนได้รับดาวมิชเชลินเป็นร้านไทยเจ้าแรก!! และเตรียมเปิดอีกสาขาในโรงแรมแนวชิค “เมโทรโปลิแทน โฮเต็ล” ภายในปีนี้
ส่วนข้อกังวลที่หลายคนอาจมองว่าคนไทยสมัยนี้ถนัดกินจนอาจหลงลืมศิลปะครัวไทยที่บรรพบุรุษปรุงแต่งรสชาติจนเลอเลิศนั้น หนังสือเล่มนี้อาจเป็นตัวช่วยที่ดีทั้งสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติไว้อ้างอิงเปิดโพยหาวิธีเลือกซื้อเลือกหา แม้แต่การคั้นน้ำกะทิ ด้วยผ้ากรอง จนถึงการทำน้ำปลาจากแมลงดานาที่ให้ กลิ่นหอมชวนเตะจมูกต่างจากน้ำปลาทั่วไป
ฝรั่งผมทองคนนี้ฝากข้อความเตือนล่วงหน้า!?!