ชาร์ลี แชปลิน กลับมามีชีวิตอีกครั้งในฐานะตัวการ์ตูน 3 มิติ
ดาราตลกเงียบชื่อก้องโลก ชาร์ลี แชปลิน ตัวละครคาแร็คเตอร์คนจรจัดในชุดกางเกงขายาว หมวกทรงกลม แกว่งไม้เท้า ในภาพยนตร์ตลกขาวดำและเร็วๆที่ทั่วโลกจะได้เห็นการกลับมาอีกครั้งในรูปแบบอนิเมชั่นทั้งในจอเงินและจอแก้ว
เกือบศตวรรษมาแล้ว ที่ดาราตลกชาวลอนดอน ชาร์ลี แชปลินได้แนะนำตัวเองให้โลก ได้รู้จักกับคาแร็คเตอร์คนจรจัดในชุดกางเกงขายาว หมวกทรงกลม แกว่งไม้เท้า ในภาพยนตร์ตลกขาวดำและเร็วๆนี้ทั่วโลกจะได้เห็นเขาได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในฐานะตัวการ์ตูน 3 มิติที่จะโลดแล่นทั้งบนจอแก้วและจอเงิน
แอนิเมชั่นเรื่องนี้เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างบริษัทMethod Animation ของประเทศฝรั่งเศสและ MK2ประเทศอินเดียด้วยงบประมาณกว่า 11.5 ล้านดอลลาร์โดยจะเป็นซีรีย์ที่ไร้บทสนทนายาว 6 นาที มีจำนวน 104 ตอน ได้รับแรกบันดาลใจจากภาพร่างและมุกตลกจากบรรดาภาพยนตร์ของแชปลินในอดีต แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายดั้งเดิมอยู่ มีกลุ่มเป้าหมายคือ เด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป และมีแผนที่จะนำออกฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงต้นปีหน้าด้วย
ชาร์ลี แชปลิน เสียชีวิตในปี 1977 เขาฝากผลงานที่โด่งดังไว้หลายเรื่องได้แก่ The Kid(1921)The Gold Rush(1925)City Lights (1931)Modern Times(1936)และ The Great Dictator(1940)ซึ่งเวอร์ชั่นในศตวรรษที่ 21 นี้ แชปลิน รุ่นดั้งเดิมจะหลุดมาอยู่ในเหตุการณ์ที่เป็นปัจจุบัน
ที่มา:หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
The Kid (1921)
กำกับและเขียนบท: ชาร์ลส แชปลิน
นำแสดง: ชาร์ลส แชปลิน, เอ็ดนา เพอร์เวียนซ์, แจ็คกี้ คูแกน
หนุ่มพเนจร (รับบทโดยชาร์ลส แชปลิน) ที่อาศัยอยู่ในสลัม ไปเจอเด็กทารกคนหนึ่งที่ถูกแม่ทิ้งไว้ข้างถังขยะ จึงรับอุปการะมาเป็นลูกด้วยความรักใคร่ จนเมื่อเจ้าหนูน้อยเติบโตขึ้นมาได้ห้าขวบ จึงเริ่มช่วยพ่อหารายได้เข้าครอบครัวโดยทุกๆ วันสองพ่อลูกก็จะออกไปทำงาน โดยเจ้าหนูรับหน้าที่ขว้างก้อนหินใส่กระจกหน้าบ้านคนอื่นให้แตกแล้ววิ่งหนีไป ส่วนหนุ่มพเนจรก็จะบังเอิญเป็นช่างซ่อมกระจกที่เดินผ่านมาแถวนั้นพอดีจึงมาช่วยรับซ่อมกระจกที่แตก ทำให้มีรายได้เล็กๆ น้อยๆ มาพอหาซื้ออาหารประทังชีพได้ แต่ก็จะมีบางวันที่ต้องเหนื่อยหน่อย เพราะต้องวิ่งหนีการไล่จับของตำรวจที่รู้ทันมุขของสองพ่อลูกคู่นี้ หรือพวกสามีของบรรดาแม่บ้านสาวๆ ที่หนุ่มพเนจรไปแอบจีบขณะซ่อมกระจก
ถึงแม้ว่าทั้งสองจะมีการเป็นอยู่อย่างอัตคัต แต่ก็มีความสุขกันอย่างที่พ่อลูกจนๆ จะสามารถมีได้ หนังตัดไปเล่าถึงฝ่ายแม่ของเจ้าหนู (รับบทโดยเอ็ดน่า เพอร์เวียนซ์) ซึ่งเป็นดาราเวทีชื่อดังที่รู้สึกผิดกับการที่ทิ้งลูกตัวเองในอดีต จึงอุทิศตนให้กับการกุศลโดยไปแจกของเล่นให้เด็กๆ ในสลัมซึ่งเจ้าหนูน้อยบังเอิญอาศัยอยู่ ซึ่งถึงแม้ว่าจะได้มีโอกาสเจอกันตั้งหลายครั้ง แต่ว่าฝ่ายแม่ก็มิได้ล่วงรู้เลยว่าเด็กผู้ชายคนนี้เป็นลูกแท้ๆ ที่ตนทิ้งไป จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าหนูล้มป่วยลง หมอที่มาตรวจอาการได้ซักประวัติจากหนุ่มพเนจรจึงได้ทราบว่าเขาไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของหนูน้อย หมอจึงส่งเจ้าหน้าที่จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามานำตัวเด็กไป ฝ่ายหนุ่มพเนจรไม่ยอมให้ลูกตกไปอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดูจะไม่มีความเอ็นดูเด็กเลยแม้แต่น้อย เขาจึงพยายามสู้กับตำรวจและเจ้าหน้าที่อย่างสุดตัว ก่อนที่จะวิ่งตามรถตำรวจที่มาพรากลูกของเขาไป และชิงตัวลูกกลับมาได้ในที่สุด