Select Page

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ-ภาวะโลกร้อน เราทำอะไรหรือยัง

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ-ภาวะโลกร้อน เราทำอะไรหรือยัง

global-warming
Climate Change (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ)หรือ Global warming(ภาวะโลกร้อน) ใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกที สภาพอากาศที่แปรปรวน ภัยธรรมชาติต่างรูปแบบคุกคามมนุษยชาติทุกมุมโลก แล้วเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอะไรบ้างหรือยัง หยิบบทความที่เคยเขียนไว้ในนิตยสาร FAME เมื่อปี 2550 มาให้อ่านดูอีกครั้ง เพราะบางเรื่องหลายคนอาจยังไม่ได้ทำ!!!


climate_change_0218[1]

เรื่อง:สายสวรรค์ ขยันยิ่ง

ที่มา:นิตยสาร FAME ปี 2550

          เมื่อภาพหมีขั้วโลกต้องตะกุยตะกายหาก้อนน้ำแข็งเป็นที่อยู่อาศัยใหม่ หลังจากไอส์แลนด์ชีส หรือแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกละลายจากภาวะอุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้น หรือที่เราเรียกกันว่า “ภาวะโลกร้อน” ก็แสดงว่าโลกนี้ไม่ปกติกันแล้วนะคะ เมื่อก่อนฉันยอมรับตามตรงเลยว่าไม่ได้เป็นเป็นพวกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สวยใสหัวใจสีเขียวอะไร

          แต่เดี๋ยวนี้ชักจะขยาดอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่บ้านเราโดนสึนามิซะหายนะฟื้นตัวเกือบไม่ไหว ยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาเจอพายุคาทริน่าถล่มนิวออร์ลีนส์เข้าไปเสียราบคาบ ตามมาด้วยฝนตกหนักผิดฤดูกาล ทำให้น้ำท่วม ดินถล่ม พอมาปีนี้ความแห้งแล้งมาเยือนในหลายจังหวัดแล้วยังไม่พอ ควันไฟป่าทำให้เกิดหมอกควันลอยต่ำกินบริเวณกว้างไปถึง 8 จังหวัดนานหลายวันเมื่อต้นเดือนมีนาคมนี้(2550) ชาวเหนือป่วยไข้ไปตามๆกัน เห็นแล้วถึงได้บอกไงคะว่า ถึงไม่ใช่พวกธิงค์เอิร์ธ แต่ก็ชักประหวั่นพรั่นพรึงแล้วว่า ความทุกข์ที่เกิดจากภัยธรรมชาติจะกระทบมาถึงเราเมื่อไร แม้ว่าจะอยู่ในกรุงเทพกันก็ตาม เรื่องนี้คนที่ชอบดูดวงคงจำกันได้ว่ามีคำทำนายเกี่ยวกับหายนะที่จะเกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพ สร้างความเสียหายใหญ่หลวง ไม่แพ้ที่เกิดแก่ภาคโน้นภาคนี้ เราก็ได้แต่หวังว่าขออย่าให้คำทำนายเป็นจริงเลย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าที่เห็นก็สร้างความเสียหายทั้งชีวิต ทรัพย์สิน เศรษฐกิจต่างๆ มากพอแล้ว

          ดิฉันได้สนทนากับ ดร.จิรพล สินธุนาวา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิ่งแวดล้อม ในรายการ “คืนนี้กับสายสวรรค์” เมื่อไม่กี่วันก่อนเรื่องภาวะโลกร้อน แล้วก็ถามถึงเรื่องไฟป่าทางภาคเหนือ อาจารย์ก็บอกว่าต้องสร้างจิตสำนึกของชาวบ้านที่เผาป่าเพื่อเอาของป่ามาขาย พอๆกับการสร้างจิตสำนึกของคนที่ชอบบริโภคของป่า เพราะเป็นเรื่องอุปสงค์ อุปทาน ไงคะ เขาประกอบอาชีพเผาป่า เก็บผักหวาน เอาออกมาขายที่ตลาดก็ขายดิบขายดี ด้วยเครดิตว่าเป็นผักหวานป่าสดๆ คนซื้อก็น้ำลายสอนึกถึงอารมณ์การกินผัดผักหวานกรุบๆ บางพวกก็เผาป่าไล่ผึ้งเพื่อเอารังผึ้งและน้ำผึ้งมาขาย ก็ขายดิบขายดีอีก น้ำผึ้งป่าสรรพคุณแสนวิเศษใช้กินใช้ทาพอกหน้าเสริมสวยอะไรแบบนี้ พอขายดีก็เผาแล้วเผาอีก สภาพอากาศบางฤดูกาลมันก็ไม่ทำให้เกิดผลกระทบใหญ่โตอะไรเขาก็ไม่รู้สึก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเผาป่าบ่อยๆ ต้นไม้โตไม่ทัน ไม่มีอะไรยึดหน้าดินให้แข็งแรง พอฝนตกหนักหน่อยก็เป็นปัญหาน้ำป่าทะลัก ดินโคลนถล่ม เดือดร้อนกับตัวเองอีก ไม่มีใครให้ความรู้เรื่องเหล่านี้ พอถึงฤดูแล้งอย่างนี้ทำแบบเดิมๆ จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาร้อนถึงรัฐบาล เจ้ากระทรวงต่างๆ ต้องไปตั้งวอร์รูมขจัดปัญหา burning-forest[1]

          อาจารย์จิรพลบอกว่าแก้ปัญหาระยะสั้นก็แค่กำจัดหมอกควัน บรรเทาอาการเจ็บป่วยของผู้คน และลดปลกระทบที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ระยะยาวยังไม่เห็นมาตรการอะไรออกมาเลย เพราะมันเป็นเรื่องการให้ความรู้ การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และการทำมาหากินกันของคนจำนวนมากเลยทีเดียว พวกเราเองก็คงต้องช่วยกันเรื่องการบริโภคนี่ล่ะค่ะ เลิกกินของป่าไม่ว่าจะอร่อยเลิศขนาดไหน เดี๋ยวนี้มีผักปลูกในฟาร์ม มีน้ำผึ้งฟาร์มคุณภาพดีให้อุดหนุนเยอะแยะ ช่วยลดความต้องการเรื่องพวกนี้ลง คนที่เอาของป่าออกมาขายจะได้หันไปทำมาหากินอย่างอื่น

          หน้าร้อนแบบนี้ดิฉันยังถูกอาจารย์เตือนอีกว่าอย่าใส่เสื้อผ้าเหมือนที่เคยใส่ พวกอยู่ในห้องแอร์ใส่สูทเป็นประจำก็ไม่ใช่ทู่ซี้ใส่สูทอยู่เหมือนเดิม เดินออกจากตึกแต่ละทีแทบจะหงายหลังผึ่งเพราะร้อนตับแตก เครื่องปรับอากาศมันทำงานหนักขึ้นในหน้าร้อน แบบที่ชาวตึกทำไม่รู้ไม่ชี้ แถมเวลานอนใครยังใส่ชุดนอนผ้าหนานุ่มแล้วห่มคลุมด้วยผ้านวมอีกล่ะก็ถือว่าผิดระเบียบหน้าร้อนอย่างแรงค่ะ

tissue[1]          กระดาษชำระอย่าใช้เปลืองมาก เปลี่ยนมาใช้ผ้าเช็ดหน้ากันให้คุมค่าดีกว่า

         ตู้เย็นก็อย่าใส่ของเต็มล้นตู้เย็นแทบแตกเพราะจะทำให้คอมเพรซเซอร์ทำงานหนักเกินไป อาจารย์บอกว่าควรใส่ของในตู้เย็นมากที่สุดประมาณ 65 % ของพื้นที่เท่านั้นค่ะ ก่อนจะเก็บอาหารร้อนๆ เข้าตู้เย็น ก็ควรปล่อยให้มันเย็นลงก่อน อ้อ! อย่าตั้งตู้เย็นไว้ชิดผนังนะคะ ควรขยับออกห่างผนังสัก 15 ซม. เพื่อให้มันได้ระบายความร้อนค่ะ

         เรื่องพวกนี้เราทำได้ง่ายมากเลยเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ แล้วมากกว่านี้อีกระดับก็เป็นเรื่องพฤติกรรมการขับขี่ยวดยานพาหนะ ซึ่งพูดยากเพราะใครๆ ก็ชอบความสะดวกสบาย จะเชียร์ให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะมันก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง รถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟใต้ดินก็ไม่ได้มีเส้นทางบริการมากนัก จะให้ไฮโซไฮซ้อจอดรถหรูไว้ที่บ้านแล้วนั่งแท็กซี่หรือขนส่งมวลชนก็คงยากเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา

large_092208carpool1[1]         จะใช้มาตรการคาร์พูล ก็คงไม่ถึงกับไปไหนต้องรับคนไปทั้งซอย เพียงแค่ในครอบครัวเรา ลดการใช้รถคนละคันลงได้บ้างก็ดี หรือมีเพื่อนที่ทำงานอยู่บ้านใกล้เคียงหรือเส้นทางเดียวกัน แบบนี้จะลงตัวมาก หากจะร่วมทางกันบ้าง 

         ดูเอาก็แล้วกันค่ะว่าจะรักษ์โลก ตอบแทนบุญคุณโลกใบนี้ได้อย่างไรบ้าง ปรับพฤติกรรมกันได้ทีละเรื่องสองเรื่องก็ยังดีกว่าพูดๆๆแต่ไม่ทำอะไรเลย!!!!!

About The Author

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.