Select Page

“เหวิน เหวิน” กับ “ฉลุย” แง่มุมอันอ่อนโยนของสมัคร สุนทรเวช

“เหวิน เหวิน” กับ “ฉลุย” แง่มุมอันอ่อนโยนของสมัคร สุนทรเวช

ทันทีที่แกะซองไปรษณีย์แล้วพบเห็นหนังสือเด็กเล่มกะทัดรัด มีภาพวาดแมวหน้าตาน่ารัก และอักษรบนปกว่า “เหวิน เหวิน” พลันก็นึกถึงอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนรักแมวเป็นพิเศษ และมีแมวตัวโปรดตรงกับชื่อนี้  อีกเล่มหนึ่งที่ส่งมาพร้อมกัน ชื่อเรื่อง “ฉลุย” พร้อมภาพปกเป็นเจ้าหมาน้อยน่ารัก ฉันเปิดดูหนังสือทีละเล่มอย่างรวดเร็วด้วยความสนใจ ก่อนจะอ่านจดหมายที่ผู้เขียนเล่าที่มาที่ไปและคุณูปการของหนังสือที่กำลังเกิดขึ้นด้วยจิตอาสา

 

 

เรื่อง สายสวรรค์ ขยันยิ่ง

วันที่ 19 กรกฎาคม 2553

 

              ผู้เขียนแนะนำตัวในจดหมายว่า ชื่อ ธนะชัย สุนทรเวช เป็นหลานของคุณลุงสมัคร สุนทรเวช  เขียนหนังสือเด็กเรื่อง “ฉลุย” กับ “เหวิน เหวิน” ขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2553 นี้เอง เนื่องจากตรงกับเดือนเกิดของคุณลุงสมัคร โดยใช้นามปากกาว่า “น้าเมฆ” ซึ่งเป็นการนำเรื่องราวหมาและแมวในบ้านท่านมาถ่ายทอดเป็นหนังสือสำหรับเด็ก และตั้งใจว่ารายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปบริจาคให้แก่โครงการหมาแมวจรจัด เหมือนกับที่คุณลุงเคยทำในสมัยที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งได้ขออนุญาตท่านไว้แล้วตั้งแต่ครั้งยังมีชีวิตอยู่

                คุณธนะชัยบอกสาเหตุที่ส่งหนังสือมาให้ดิฉันอ่านว่า “…คุณสายสวรรค์ได้เคยไปสัมภาษณ์คุณลุงสมัครสมัยยังอยู่ ITV และได้คุยเรื่องเหวิน เหวิน แมวตัวโปรดของคุณลุง ครั้งนั้นทำให้คนรักแมวหลายคนประทับใจ ผมไม่แน่ใจว่าวันนั้นคุณสายสวรรค์ได้สังเกตหมาแก่สีขาวที่นอนอยุ่ในบ้านคุณลุงหรือเปล่าครับ เจ้าหมาตัวนั้นคือ ฉลุย คุณลุงเก็บฉลุยมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ เจ้าฉลุยก็เลยคิดว่าตัวเองก็เป็นแมวตัวหนึ่งในบ้าน  พอออกไปเจอหมาด้วยกัน กลิ่นแมวติดตัว เป็นเหตุให้ต้องฟัดกับหมาแถวบ้านจนตาบอด…”  

                 ในบทนำของหนังสือสำหรับเด็กเรื่อง “เหวิน เหวิน” นี้คุณธนะชัยได้ยกข้อความของคุณสมัคร สุนทรเวชที่เขียนความรู้สึกเกี่ยวกับแมวเอาไว้ว่า

                “คนที่ชอบแมวกับคนที่รักแมวนั้นไม่เหมือนกัน  คนที่ชอบแมวเจอแมวก็อุ้มเล่นด้วย แต่ถ้าแมวตัวที่เลี้ยงไว้ขึ้นไปถ่ายบนที่นอน ก็จะเกิดโมโหเอาไม้ไล่ตีแมว

                แต่คนที่รักแมวแล้ว ถ้าเจอแมวของตัวเองทำอย่างนั้น ก็ต้องจัดการอุ้มแมวออกไปไว้ที่อื่น เอาผ้าปูที่นอนไปซัก แล้วคิดหาหนทางแก้ไขไม่ให้แมวเข้าไปในห้องนอน” 

 

                ด้วยความมีจิตใจอบอุ่นแบบคุณพ่อลูกหนึ่ง ที่เชื่อมั่นในการเลี้ยงลูกด้วยหนังสือ และเคยสร้างสรรค์หนังสือทำมือส่งประกวดจนได้รับรางวัลรักลูกอวอร์ด ปี 2550 จากเรื่อง “คุณเต่าพูดเพราะ”มาแล้ว คุณธนะชัยจึงอยากให้คนอื่นได้เห็นคุณค่าของหนังสือเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงว่า “ถ้าเด็กๆ ได้ดูแลสัตว์เลี้ยงด้วยตัวของเขาเอง ตั้งแต่การจัดหาอาหารมาให้  พาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอเมื่อยามเจ็บป่วย การเอาใจใส่เช่นนี้จะทำให้เด็กคนนั้นมีจิตใจอ่อนโยน มีเมตตาแม้ว่าเรื่องการพลัดพรากเป็นสัจธรรมที่เลี่ยงไม่ได้ แต่เด็กๆ ก็จะเข้าใจวงจรของชีวิตไปด้วย (เรื่องหนึ่งเจ้าของจากไปก่อน อีกเรื่องหนึ่งสัตว์เลี้ยงจากไปก่อน)”

                 น่าเสียดาย ที่คุณสมัคร สุนทรเวช ไม่ทันได้เห็นผลงานหนังสือเด็กที่ได้แรงบันดาลใจจากสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของท่านทั้ง 2 เล่มนี้  แต่เชื่อเหลือเกินว่า ใครที่ได้อ่าน ก็คงจะทำให้ได้เห็นแง่มุมความอ่อนโยนในจิตใจของท่านได้เป็นอย่างดี  และเป็นมุมส่วนตัวที่หลายคนไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก  และคนที่ไม่เคยรักหมารักแมวอาจจินตนาการไม่ถูกถึงความรักความผูกพันระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงผู้จงรักภักดี

 

 

                ที่สุดแล้วหนังสือทั้งสองเล่มนี้ยังจะเป็นสื่อกลางระหว่างผู้ใจบุญกับหมาแมวที่ถูกทอดทิ้งอีกด้วย โดยรายได้จากการจำหน่ายเล่มละ 55 บาทของหนังสือเรื่อง “เหวิน เหวิน” เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วก็สมทบทุนให้ “โครงการรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร”   ส่วนเรื่องของเจ้า “ฉลุย” ราคาเดียวกัน หักค่าใช้จ่ายแล้วก็สมทบทุนให้ “โครงการอาสาช่วยเหลือเพื่อนสี่ขา” ซึ่งทั้งสองโครงการมีวัตถุประสงค์ในการจัดหารายได้ช่วยเหลือสุนัขไร้บ้าน หรือแมวจรจัด ให้มีอาหารกินเพียงพอ  ดูแลรักษาสัตว์ตัวที่เจ็บป่วยหรือพิการให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนช่วยฉีดวัคซีน และทำหมัน เป็นต้น 

 

       ขอบคุณนะคะ “น้าเมฆ” ผู้คิดและทำอะไรดีๆ อย่างนี้  และหวังว่าคงจะมีหนังสือสำหรับเด็กเล่มต่อไปๆ ออกมาในเร็ววัน เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

 

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.