Select Page

อารันดร์ อาชาพิลาส (ตอนที่ 2)

“…สิ่งที่ในหลวงท่านทำมาเนี่ย ท่านเอาธุรกิจกาแฟไปปราบธุรกิจค้าฝิ่นนะ … ท่านเอาธุรกิจทางเลือกมาให้คน นี่แหละคือธุรกิจเพื่อสังคม สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะปลูกกาแฟแทนฝิ่น เพราะกาแฟมันก็ได้กำไรเหมือนกันและไม่ผิดกฎหมาย คนเราถ้ามีทางเลือกผมว่าคนส่วนใหญ่เลือกทางที่ดีทั้งนั้น…” แรงบันดาลใจแห่งการทำความดี และการสร้างธุรกิจเพื่อสังคม จากบทสนทนาของอารันดร์ อาชาพิลาส กับ สายสวรรค์ ขยันยิ่ง

 

 สายสวรรค์  : ที่น่าสนใจ คือว่า พยายามส่งเสริมคนดี คนรุ่นใหม่ คนที่ทำประโยชน์ให้แก่สังคม คนที่รู้จักคุณค่าของการให้ อันนี้ชอบมาก

 

อารันดร์ : คือ อันนี้เป็นเรื่องที่ผมพูดว่า ทุกวันนี้ คนชั่วมันสามัคคีกันคนดีไม่สามัคคีกันเท่าไร

 

สายสวรรค์ : เพราะอะไรหรือคะ

 

อารันดร์ : ไม่รู้สิ สังเกตดู เมื่อไรที่คนดีสามัคคีกันได้นี่ ทุกอย่างระบบมันก็โดนแก้ไปเอง แต่วันนี้คนชั่วมันสามัคคีกันเหลือเกิน มันมีเครือข่ายพื้นที่ที่ผมทำอยู่ ผมไม่ได้มองว่าผมสร้างหนังสืออย่างเดียว แต่สิ่งที่ผมอยากจะสร้าง คือ สร้างชุมชน ทำยังไงให้คนดีสามารถมาเจอกันได้  สามารถเป็นเพื่อนกันแล้วมีอะไรก็ช่วยกันได้ ปลายปี(2553)นี้เราก็เลยดำเนินกิจกรรมชวนไปโรงพยาบาลเด็กบอกไปทางเฟสบุ๊ค ชวนคนเข้ามาเจอ คนก็มาเป็นร้อยเหมือนกัน มาเยอะมากก็ให้คนเหล่านี้รู้จักกันไว้นี่เป็นโจทย์ที่เราทำ เมื่อไรก็ตามถ้าหากเราสามารถสร้าง Community คนดีขึ้นมาได้ ปัญหามันก็จะค่อยๆโดนปลดล็อค ทีละล็อคเอง อย่างเรื่องตอนน้ำท่วมนี่ ผมก็ต้องชมกลุ่มอาสาที่ทำเยอะมาก ผมดู  ระบบ Thai Flood เขาทำได้ดีมาก นี่คือข้อดีของโลกเราที่มันเปลี่ยนแปลง ขอให้คนมีไอเดียที่ดีแล้วก็บอกต่อกันให้คนที่มากพอ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว

 

สายสวรรค์ : เครื่องมือมันง่ายขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะ

 

อารันดร์ : ใช่ๆ หนังสือเนี่ย ผมพยายามพัฒนาเนื้อหาให้ดึงดูดโดยที่ว่าไม่ได้ทำอะไรที่อบายมุข ไม่ได้ขายสิ่งที่ไม่ควรจะขายทำให้มันดึงดูดควบคู่ไปกับการหาคนช่วยเหลือคนอีกด้วย นี่คือโจทย์ของเรา

 

สายสวรรค์  : คุณต้นวิเคราะห์หน่อย ที่บอกว่าบ้านเราก็เมืองพุทธ คนไทยก็มีบุคลิกลักษณะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปัน แต่ทำไมธุรกิจเพื่อสังคมจึงเกิดขึ้น  ไม่มากนัก

 

อารันดร์ : คำว่าธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise จริงๆเนี่ยในหลวงท่านทำมาก่อนแล้ว สิ่งที่ในหลวงท่านทำมาเนี่ย ท่านเอาธุรกิจกาแฟไปปราบธุรกิจค้าฝิ่นนะ หากศึกษาท่านจริงๆ พระราชอำนาจท่านมีจำกัด  มากๆ ท่านไม่สามารถไปสั่งรัฐบาลให้ไปทำอะไรได้นะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่  แก้ปัญหาคือ ท่านเอาธุรกิจทางเลือกมาให้คนนี่แหละคือธุรกิจเพื่อสังคม สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะปลูกกาแฟแทนฝิ่น เพราะกาแฟมันก็ได้กำไรเหมือนกันและไม่ผิดกฎหมาย คนเราถ้ามีทางเลือกผมว่าคนส่วนใหญ่เลือกทางที่ดีทั้งนั้น

 

สายสวรรค์ : อย่างที่คุณต้นบอก ถ้าใครอยากจะรู้ว่าธุรกิจเพื่อสังคมเป็นยังไง  เรียนรู้จากโครงการพระราชดำริในหลวงนั้นง่ายที่สุดเลย

 

อารันดร์  : ครับผม ไม่ต้องไปมองต่างประเทศมองไทยกาแฟปราบฝิ่น ที่เดียวในโลกที่ทำได้ไม่มีชาติไหนที่เอาธุรกิจกาแฟมาปราบธุรกิจฝิ่นได้  อย่าลืมว่าเรามีสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้วแต่คนบางครั้งลืมมองไปแล้วมองให้ลึกด้วยท่านทิ้งอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังเราเยอะมากที่สามารถไปต่อยอดได้ ส่วนคำถามที่ว่าทำไมธุรกิจเพื่อสังคมในเมืองไทยยังไม่ได้แพร่หลายมาก คือ ภาครัฐเขามีนโยบายออกมาเพื่อช่วยเหลือสังคมมากขึ้น แต่ต้องเข้าใจว่า คนทั่วไปยังถือว่าเรื่องนี้ใหม่อยู่มันจะต้องใช้เวลาในการ   เรียนรู้ ทำความเข้าใจ ไม่ใช่ว่าเมืองไทยไม่มีงบประมาณนะเมืองไทย เนี่ยงบประมาณที่ไปลง อย่างเช่น ของศักดิ์สิทธิ์ พุทธพาณิชย์ มูลค่าปี หนึ่งไม่รู้กี่หมื่นล้าน รู้ไหมว่าเงินตรงนั้นเนี่ยผมสามารถตั้งกองทุนขึ้นมาได้เลย เงินนี่ไม่ต้องไปไหนเลยนะ ไปซื้อหุ้นที่แข็งแกร่ง เงินตรงนี้ไม่หายไปไหนแล้วมีดอกเบี้ย แล้วดอกเบี้ยตรงนี้เราสามารถเอามาลงทุนได้เลย โดยที่เราไม่ต้องแคร์เลยว่าการลงทุนอันนี้มันเสี่ยง แต่ว่าพลาดไปไม่เป็นไรเพราะเงินต้นตรงนี้มันยังอยู่ ขอปีเดียวเงินตรงนี้ลงปุ๊บ ผมพลิกประเทศได้เลย

                ที่ผมพูดวาดภาพออกใช่ไหมครับว่าทุกวันนี้เงินในการให้ของคนไทย บางครั้งมันยังไปในหลายสิ่ง มันยังไม่มาในสิ่งนี้ เมื่อไรก็ตามที่เงินตรงนี้ของคนไทยมันสามารถไหลเข้ามาในส่วนนี้ได้ปุ๊บเนี่ย มันพลิกเลยอย่างเช่น ผมไปดูงานที่เกาะเต่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากว่า คนที่ดูแลปะการังที่เกาะเต่า ส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง แล้วเขาบอกกับผมว่าเขาเป็นครู  สอนดำน้ำเขาได้เดือนหนึ่ง 30,000 บาท แต่ถ้าเขาจะเป็นนักปลูกปะการังมืออาชีพ เขาได้เดือนหนึ่ง 15,000 บาท ผมถามว่าถ้าเพิ่มเงินให้เขาเป็น 30,000 บาท คนเหล่านี้ยินดีเป็นนักปลูกปะการังมืออาชีพแล้วเขามีความรู้ดีด้วย หากคุณเอาคนที่ไม่มีควารู้หรือประสบการณ์ไปปลูก  ปัญหาคือพอลงปุ๊บแล้วคุณหันหลังเนี่ย เท้ากบของคุณมันจะไปตีแล้วไปกระแทกตัวปะการัง แล้วมันจะพังจะยิ่งแย่เพราะฉะนั้นบางอย่างต้องใช้มืออาชีพ นี่คือปัญหาที่ผมเจอ หากมีกองทุนที่จ่ายเงินอาชีพที่ควรจะเป็นเพิ่มขึ้น อีกอาชีพหนึ่งคือครูข้างถนนซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ทุกคนลืมเลือนเขาไปหมด เขาเป็นกลุ่มครูที่อยู่กับเด็กข้างถนนเราตอบไม่ได้หรอกว่าถูกหรือผิด แต่เงินเดือนเขาต่ำมากแล้วบางทีเด็กอดข้าวต้องซื้อข้าวให้เด็กกิน แล้วไม่มีสวัสดิการอะไรเลยซึ่งหากว่ามีกองทุนที่มันจะไปลงตรงนี้ครูข้างถนนสามารถมีรายได้ที่ดีขึ้น ทุกอย่างมันพลิกเลย

 

สายสวรรค์ : ตั้งเป้าไหมคะว่าขีดสุดของ BE Magazine จะเป็นยังไง

 

อารันดร์ : ผมอยากจะต่อยอดว่า ถ้าเป็นไปได้มันสามารถแตกยอดออกไปได้ไหมที่ผมจะเป็นบริษัทที่ปรึกษา เราเป็นบริษัทเล็กเราจะทำอะไรทีมันก็เหนื่อยกว่าบริษัทใหญ่ทำ หากเราสามารถไปบอกกับ ปตท. ได้ เราเป็น ที่ปรึกษาเขาอยากเอาอย่างนี้ไหมกำไรของคุณหมื่นล้านนี่คุณเอามาลงทุนตรงนี้เนี่ย แล้วเอามาช่วยคนตรงนี้คุณก็พลิกไปเลยนะ คุณตัดสินใจแค่ครั้งเดียว เงินหมื่นล้านเนี่ยไม่ได้หายไปไหน วันไหนวิกฤติคุณก็ยังดึงกลับได้อยู่นี่คือสิ่งที่ผมจะเป็น ผมจะทำให้ได้

 

(คลิกชมคลิปวีดีโอการสนทนา)

 

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.