สิริลักษณ์ ตันศิริ (ตอนที่ 1)

“…ลองดูซิคะว่ามีใครที่เขาไปแบบก้าวกระโดด เขาทำได้ยังไง “คนนี้เป็นคนคิดใหญ่ ฝันใหญ่ กล้าคิดกล้าทำ” เราก็เอาความคิดใหญ่ฝันใหญ่ กล้าคิดกล้าทำอย่างนั้นมาฝึกให้เป็นในตัวเราบ้าง  “เออ ทำยังไงให้มันคิดใหญ่ฝันใหญ่ ถ้าฝันเล็กๆ มันก็ใช้ชีวิตเล็กๆ เราฝันใหญ่ขึ้นชีวิตจะได้ใหญ่ขึ้น…” แนวคิดปลุกพลังยักษ์ในตัวคุณให้ตื่น!!! จากบทสนทนาระหว่างโค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ กับ สายสวรรค์ ขยันยิ่ง

สายสวรรค์ :    วันนี้ดิฉันได้รับเกียรติจากคุณ สิริลักษณ์ ตันศิริ สุดยอดโค้ชและ  นักพูดสร้างแรงบันดาลใจหญิงคนแรกของเมืองไทยค่ะ ขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ให้มาคุยด้วย

สิริลักษณ์ :     ค่ะ สวัสดีค่ะ ยินดีค่ะ

สายสวรรค์ :   ปีใหม่ส่วนใหญ่คนมักจะตั้งเป้าว่า เขาต้องทำอะไรสักอย่าง ฉัน  จะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง ในฐานะโค้ชที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้คน        มาแล้วทั่วประเทศ อยากจะบอกเขาว่า ถ้าจะเปลี่ยนต้องนับหนึ่งยังไง

สิริลักษณ์ :     เออ อันนี้สำคัญมากเลยคือต้องมีความตั้งใจจริง  สังเกตุไหมคะ    ว่าเวลาคนเราเนี่ยนะ “โอ้มาแล้วเทศกาลปีใหม่! มาแล้วฉันจะต้องมีการ  เปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆในชีวิตฉัน” ผ่านไปได้แค่อาทิตย์เดียว ลืมแล้วมัน   ต้องมีความตั้งใจจริง ต้องบอกตัวเอง เขียนออกมาดีกว่า เออ… ถ้าเอา    ของจริงนะ เขียนมาเลย “ฉันตั้งใจจะอารมณ์เย็นขึ้น ฉันตั้งใจจะให้เวลา   กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น” อาทิตย์หนึ่งต้องมีอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งวัน   อย่างนี้ ตั้งใจนะ “ฉันตั้งใจจะลดน้ำหนักลงจากปัจจุบันนี้ 60 กิโล เหลือ  50 กิโล” ทำให้มันชัดเจน เขียนออกมาแล้วอ่านมันทุกวัน ดูมันทุกวัน คิดถึงมันทุกวัน

สายสวรรค์ :    การอ่าน การพูด การคิดถึงมันทุกวัน มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ยังไงคะ? บางคนตื่นเช้ามาก็อ่าน ตื่นเช้ามาก็อ่าน แล้วยังไงต่อ

สิริลักษณ์  :     เราต้องบอกตัวเอง step แรกก่อน ว่าจะต้องมีความตั้งใจจริงและ มีเป้าหมาย การจะเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ลอยๆ กว้างๆ จะทำชีวิตให้มีดีขึ้น  มันดียังไงล่ะ? ด้านไหน อะไร เจาะจงลงไป ตั้งเป็นเป้าหมายขึ้นมา           เขียน   ออกมา แล้วบอกตัวเองอย่างจริงจังว่า “ฉันจะต้องทำอันนี้ให้ได้”       นี่คือ    สร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง แล้วทีนี้แต่ละวันที่ตื่นขึ้นมาปั๊บ เราก็ต้องรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงอันนี้ต้องใช้วิธีอะไรบ้าง อย่างเช่นจะลดน้ำหนัก ใช้วิธีไหน เดินลู่ไหม เดินลู่ที่บ้าน หรือไม่ตอนเย็นก่อนกลับบ้านจะ ต้องแวะเข้าฟิตเนส หรือว่าจะว่ายน้ำ อะไรก็แล้วแต่เขียนออกมาจะทำวิธีไหน แล้วทุกวัน ดูซิว่าเราทำรึเปล่า เราทำจริงหรือเปล่า อาทิตย์หนึ่ง     จะทำสามวัน ทำจริงหรือเปล่า ถ้าไม่ทำ “เอ้า! ไม่ได้แล้วสิริลักษณ์เอ๊ย  เอาจริงหน่อยสิริลักษณ์เอ๊ย บอกตัวเองโว้ย ลุกขึ้นมาโว้ย สู้ๆโว้ย” ทำใหม่แล้วก็ทำใหม่ เนี่ย! ต้องทำแบบนี้ ทำทุกวันๆ อยู่กับมัน แล้วตั้งนิสัยแบบใหม่ เพื่อจะสร้างผลลัพธ์แบบใหม่  ไม่ว่าเราอยากจะทำอะไร จริงๆ เราทำได้หมด จะต้องมีความตั้งใจจริง

สายสวรรค์ :     อืม แผนต้องชัด แล้วรู้ว่าจะไปให้ถึงแผนนั่นต้องทำยังไง

สิริลักษณ์ :       ถูกต้อง

สายสวรรค์  :     หลายๆครั้งที่โค้ชพูดถึงต้นแบบหรือว่า role model แล้วก็ลอกแบบจาก role model อันนี้สำคัญยังไง แล้วก็วิธีการพอเรามีต้นแบบแล้ว  เราจะลอกเลียนแบบเขายังไงไม่ให้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง

สิริลักษณ์  :      เออ ดีมากเลยค่ะ จริงๆนี่นะคะมันมีเทคนิค เรียกว่า การ  modeling คือการก๊อบปี้ทำตาม ลอกแบบคนสำเร็จ เวลาที่เราเห็นใครประสบความสำเร็จเรื่องอะไร ด้านอะไรก็แล้วแต่ อย่าเพียงแค่ชื่นชมเขา แต่ให้เรียนรู้จากเขา ว่าเขาทำได้ยังไง “ทำไมคนนี้น่ารัก มีเสน่ห์มากๆ เลย เราจะน่ารักมีเสน่ห์อย่างเขาบ้างน่า” ดูซิคะ เขาเป็นคนยิ้มแย้ม  แจ่มใส อารมณ์ดี เขาเป็นคนที่มีความจริงใจกับคนอื่น เขาเจอใครก็ตาม  เขาจะแบบ ใส่ใจ ตั้งใจฟัง เขาไปไหนมาไหนเขากระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา “อุ๊ย มีเสน่ห์มากๆเลย เราชอบคนแบบนี้” ถ้าอยากเป็นอย่างนั้น  ฝึกตัวเองซิคะ ยิ้มแย้มแจ่มใส คุยกับใครตั้งใจฟังเขา มองสบตา ทำให้  กระฉับกระเฉงเข้าไว้ ฝึกทุกวัน ถ้าเราอยากจะสำเร็จแบบ step ใหญ่ๆเลยเนี่ยนะคะ ลองดูซิคะว่ามีใครที่เขาไปแบบก้าวกระโดด เขาทำได้ยัง  ไง “คนนี้เป็นคนคิดใหญ่ ฝันใหญ่ กล้าคิดกล้าทำ” เราก็เอาความคิดใหญ่ฝันใหญ่ กล้าคิดกล้าทำอย่างนั้นมาฝึกให้เป็นในตัวเราบ้าง  “เออ  ทำยังไงให้มันคิดใหญ่ฝันใหญ่ ถ้าฝันเล็กๆ มันก็ใช้ชีวิตเล็กๆ เราฝัน  ใหญ่ขึ้นชีวิตจะได้ใหญ่ขึ้น สมมุติ หลายๆคนบอก โค้ชเป็น Idol เป็นแรง    บันดาลใจให้เขา เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ยังไง ศึกษาสิคะ ว่าเขาทำได้ยังไง โค้ชทำจริง โค้ชทำทุกวี่ทุกวัน ลุกขึ้นมาฝึกตัวเองแปดขั้นตอนทุกวัน เอ๊า! ฝึกตามโค้ช ก็ฝึกได้ เดี๋ยวเปลี่ยนเลย อัศจรรย์มากๆเลย เห็น    ไหม อยากรู้ว่าใครทำอะไร สำเร็จแบบไหน ดูเขาแล้วทำตามแบบเขา ไอ้คำว่าสูญเสียความเป็นตัวเองนี่หมายความว่า เราไปลอกทุกอย่างที่   มันไม่ได้เป็นตัวเรา แต่ Modeling คือ การลอกสิ่งดีๆ นิสัยดีๆ    บุคลิกภาพดีๆ หรือว่า ความขยันขันแข็ง ทัศนคติที่ดี แล้วก็ดูว่า เราอยากเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่าถ้าเราอยากเป็นก็ไม่เห็นเป็นไร ถ้า     สมมุติเราบอกว่าไปลอกแบบบุคลิกคนอื่น โอ้โห อยากมีบุคลิกดีแบบ  คุณสายสวรรค์มากๆเลย เราต้องฝึก ยืดหลังตรงหน่อยนะ ต้องเตรียมมารยาทเดินให้มีความสุภาพนุ่มนวลหน่อยนะ พูดจามีจังหวะจะโคน อย่ายโส น่ารักเหมือนคุณสายสวรรค์อย่างนี้ แล้วพอเรามาฝึกอืม…มัน ไม่ใช่ตัวฉันนี่นา แล้วทำไมล่ะ เราต้องเดินตัวงอ หรือพูดแบบเสียงแข็งไม่สุภาพหรือเปล่า 

สายสวรรค์:     ถ้าเกิดรูปแบบนั้นมันดี จงยอมรับ ว่าทำมันแล้วจะดีขึ้นกับตัวเรา

สิริลักษณ์ :     ก็เราบอกว่าอยากเป็นคนแบบนั้น เราก็เป็นแบบนั้น ฝึกตัวเองใหม่ แค่นั้นเอง

สายสวรรค์  :   แต่ถ้าเห็นนางแบบ อู้หู้ รูปร่างดี เราก็อยากเป็นนางแบบ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งใช่ไหมคะโค้ช ไม่ใช่ อยู่ๆก็มาเป็นนางแบบได้

สิริลักษณ์ :     อ้าว! ถ้ามีแรงบันดาลใจก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ฟิตหุ่นสิคะ ไปทำดั้งหรือเปล่า อ้าว มีความฝันที่แรงกล้า ก็สามารถทำได้

สายสวรรค์ :    ค่ะ! มีคำหนึ่งที่โค้ชเขียนไว้ในหนังสือ บอกว่า “ตัวเราสามารถดีขึ้นได้แบบไม่มีขีดจำกัดฉันใด ชีวิตเราก็ดีขึ้นได้แบบไม่มีขีดจำกัดฉันนั้น” หลายคนมองว่า จริงๆชีวิตเราก็ต้องมีขีดจำกัดบ้างละน่า ไม่อย่างนั้นก็อย่างนี้  จะเป็นมหาเศรษฐีแบบคนอื่นได้จริงหรือเปล่า ฉันจะเป็นอัจฉริยะ ฉันจะเป็นสุดยอดของวิชาชีพแต่ละวิชาชีพจริงหรือเปล่า มันมีอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยที่นอกเหนือจากการควบคุม  เขาอาจจะค้านข้อนี้    โค้ชจะบอกจะเขายังไง

สิริลักษณ์ :      อ่า อันนี้ก็สำคัญมากเลย จริงๆแล้วเนี่ยเราต้องเขาใจว่าข้อจำกัดนี่นะ มันมีจากภายนอกและภายใน ถ้ามาจากภายนอกอาจเป็นเศรษฐกิจ  เป็นพวกเจ้านายเรา ลูกค้าเรา อะไรก็แล้วแต่นอกเหนือจากการควบคุม เราไปปรับแก้สิ่งอื่นมันแก้ยาก แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่มันอยู่ภายใน คือปรับได้ย่างมหาศาลเลย และชีวิตก็เปลี่ยนเยอะมากๆด้วย แล้วชีวิตคนเรามี ได้หลายด้าน จริงไหม ชีวิตการงาน ชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัว ความรัก การเงิน เห็นไหมคะ มีหลายด้าน จะเปลี่ยนแปลงด้านไหนละคะ มีลำดับให้เราไต่ทุกลำดับเลย ถ้าตอนนี้การเงินยังไม่ดี ฝึกบริหารการเงิน   ตัวเองใหม่ซิ ถ้าตอนนี้สุขภาพไม่ดี ดูแลสุขภาพตัวเองสิคะ กินอาหาร ดีๆหน่อยนะ อย่ากินของที่มันมึนเมาเยอะเกินไป ของทอดของมัน เค้ก   เคิก ลดหน่อย สุขภาพก็ดีขึ้นนะ เห็นรึยัง  สายสัมพันธ์ในครอบครัว แต่    ก่อนไม่เคยยิ้มแย้มให้แฟนเลย ไม่ยิ้มมานานแล้ว ยิ้มให้ดูซิคะ อย่าขี้บ่น  ซิคะ ว๊าว! ความรักในครอบครัวก็เกิดขึ้นเยอะเลย ยกระดับอีกแล้วเห็นรึยัง หน้าที่การงาน แต่ก่อนไม่เคยอ่านหนังสือเลย ความรู้อยู่เท่าเดิมเบื่อมากเลย ทำงานเซ๊งเซ็ง เอ๊าเปลี่ยนใหม่ซิคะ สนุกกับการทำงาน เอาหนังสือมาอ่านพัฒนาตัวเองมากขึ้น มีความรู้มากขึ้น เจ้านายเอ็นดูมากขึ้น ได้รับคำชม โอ๊ย มีความสุข หัวใจพองโต ยิ่งทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นอีก ยกระดับอีกแล้ว เห็นรึยังคะ ทุกด้านยกระดับได้หมดเลยเราไม่มีข้อจำกัดมันไม่มี อยู่ที่เราจะสร้างหรือไม่สร้างแค่นั้นเอง

สายสวรรค์  :     แปลว่าที่โค้ชบอกข้อหนึ่งคือ “วิธีคิด” พอวิธีคิดเปลี่ยน ทุกอย่างมันก็ตามมาแต่อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากคือเรื่อง”จินตนาการ” เมื่อจินตนาการเห็นอะไร เห็นว่าเราอยู่ในภาพไหน เห็นความสำเร็จ เรามักจะมีแนวโน้มก้าวเข้าสู่ความสำเร็จจริงๆ อันนี้ อธิบายเพิ่มเติมหน่อย ค่ะ บางคนก็จินตนาการ อู๊ยฉันจะสวยฉันจะเก่งขึ้น จะรวยแล้วยังไงต่อ

สิริลักษณ์  :     อันนี้สำคัญมากเลย เป็นคำถามที่ดีมากเลยนะคะ จินตนาการต้องตามมาด้วยการลงมือทำด้วย การที่เรามีจินตนาการเพื่อให้เห็นภาพความสำเร็จที่ชัดเจนนิดนึง อะไรเป็นแรงบันดาลใจของเราล่ะ อะไรเป็นสิ่งที่เราอยากสร้างให้มันเกิด หน้าตา คิ้ว แบบไหนที่เราชื่นชอบ   ความสำเร็จแบบไหนที่เราอยากมี เห็นภาพก่อน เป็นแรงจูงใจให้เรามี แรงเดินหน้าไปหาสิ่งที่เราใฝ่ฝัน ถ้าสมมุติว่า โค้ชอยากเป็นนักพูดสร้าง   แรงบันดาลใจ อย่างสมัยก่อนเป็นนักบัญชี แล้วเปลี่ยนตัวเองไปคนละ ขั้วเลย เราก็ต้องเห็นภาพก่อนว่า ถ้าเป็นนักพูดแล้วเป็นยังไงน้อ ว๊าว ถ้า  ฉันสำเร็จเนี่ยนะ ไปพูดที่ไหนมีแต่คนตั้งใจฟังปรบมือกรี๊ดกร๊าด มีความสุข ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลง อู้หูยเรามีความสุขจังเลย นี่แหละมันจะเป็น  แรงบันดาลใจให้เรา ในการลุกขึ้นมาพัฒนาตัวเอง พัฒนาทักษะ ถ้าอยากเป็นอย่างนั้น อ่านหนังสือเยอะหน่อยสิริลักษณ์ เธอต้องมีความรู้ ไปสอนเขานะ ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน เธอต้องไปฝึกเขานะ ถ้าเธอไม่เปลี่ยนแปลงจะไปสอนใครเขาได้ละ ขี้เกียจอย่างนี้จะไปสอนใคร ลุกขึ้นมา ฝึกตัวเองทุกวี่ทุกวัน เห็นรึยัง ลงมือทำตามหลังด้วย เดี๋ยวความ  ฝันที่เราจินตนาการไว้มันจะเป็นจริง

(คลิกชมคลิปวีดีโอ)