Select Page

คุณต้องการความนับถือใช่ไหม?

คุณต้องการความนับถือใช่ไหม?

ใช่! คนบางคนดูเหมือนว่าจะได้รับความนับถือจากทุกหนแห่งที่เขาไป ทุกหนแห่งในที่นี้ หมายถึงทุกหนแห่งจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คันทรีคลับในสนามกอล์ฟ หรือล็อบบี้ในโรงแรมห้าดาว รวมทั้งความเคารพนับถือจากเพื่อนร่วมงานในที่ทำงาน เคล็ดลับของพวกเขาคืออะไรนะ?

ภาพผู้หญิงวัยทำงานที่มีความมั่นใจในตัวเอง

ภาพผู้หญิงวัยทำงานที่มีความมั่นใจในตัวเอง

สถานการณ์ เพื่อนร่วมงานไม่เคารพคุณ ไม่ไว้หน้าคุณ พูดจากระแนะกระแหนคุณ ทั้งๆ ที่คุณก็ไม่เคยแม้แต่จะคิด พูด หรือทำในสิ่งใดๆ ที่เป็นการไม่ให้เกียรติพวกเขา

ทางออก ผู้อื่นจะนับถือคุณเมื่อคุณนับถือตัวเอง นี่คือคำตอบและทางออกไปด้วยในตัวของมันเองว่า ทุกสิ่งที่คุณกระทำต่อตัวเอง ย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งอื่นๆ นั่นไงล่ะ! มันเริ่มต้นจากคุณนี่เอง วิธีเดินของคุณส่งผลกระทบต่อวิธีการพูดของคุณ วิธีการแต่งตัวของคุณ ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคุณ สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงการมองตัวเองของตัวคุณ อย่างที่บอกจงนับถือตัวเองแล้วคุณจะได้รับความนับถือจากเพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วมโลก ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในดาวพระเคราะห์แห่งนี้

ภาพผู้หญิงในวัยทำงานที่ต้องการการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน

ภาพผู้หญิงในวัยทำงานที่ต้องการการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน

สถานการณ์ เราจะรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญได้อย่างไร ในเมื่อเราย่อมรู้แก่ใจว่าเราไม่ใช่

ทางออก ก็จริงนะ คุณจะรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญได้อย่างไร ในเมื่อชุดชั้นในของคุณมีรูโบ๋ สายบราของคุณเหลวเพราะยางยืดเสื่อม อัยยะ…ขอโทษนะ นั่นใช่นิ้วหัวแม่โป้งใช่มั้ยที่โผล่ออกมานอกถุงเท้านั่น

วิธีง่ายๆ ในการหันมาเคารพตัวเอง อาจไม่ได้เริ่มจากเครื่องแต่งตัว แต่เริ่มจากสถานที่ที่คุณใช้เวลาอยู่กับมันบ่อยๆ หรือนานๆ ได้แก่ 1.บ้าน 2.ที่ทำงาน 3.รถยนต์ส่วนตัว นับหนึ่งลงมือเปลี่ยนโฉมสถานที่เหล่านี้ เพราะเป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่ว่า สถานที่ที่คุณอยู่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึก (ของคุณเอง) นั่นรวมถึงความเคารพตัวเองด้วย

ภาพผู้หญิงที่มีความมั่นใจ และมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ

ภาพผู้หญิงที่มีความมั่นใจ และมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ

สถานการณ์ ผมจะจัดอพาร์ตเมนต์ (รูหนู) ของผมให้ดีขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อผมมีเงินติดกระเป๋าตอนนี้แค่ 100 กว่าบาท

ทางออก ก็ซื้อไม้กวาดสิ! บ้านของคุณอาจไม่ใหญ่โต แต่คุณจัดมันให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้ นั่นรวมถึงการทำให้ภายในรถ และบริเวณโต๊ะทำงานที่คุณไปทำงานตั้งแต่เช้าถึงเย็นตลอดสัปดาห์ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น สะอาดสะอ้านดูดีขึ้น หรือคุณอยากทำอะไรก็ตามที่จะทำให้ทันทีที่คุณก้าวเข้ามาบริเวณโต๊ะทำงานแล้วมีความกระฉับกระเฉงสดใส

การทำให้สถานที่ที่เราใช้เวลาอยู่กับมันบ่อยๆ นานๆ สะอาดเรียบร้อย ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะความเป็นระเบียบและการปัดกวาด แทบไม่มีต้นทุนอะไรเลย คุณอาจบอกว่า คอยดูนะ! ถ้าผมประสบความสำเร็จ ผมจะเลิกอยู่รูหนูนี่เสียที ผิดแล้วล่ะ การจะประสบความสำเร็จให้ได้ คุณต้องเริ่มด้วยการมีชีวิตอยู่อย่างคนที่ประสบความสำเร็จก่อน คุณต้องรู้สึกให้ได้อย่างนั้นตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลย!

Ask the Expert

Q. องค์กรกำลังมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่หลายคนรู้สึกว่าไม่ได้นำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นกับคนส่วนใหญ่แต่ดีขึ้นกับคนไม่กี่คน เริ่มมีอาการเบื่อหน่าย เราจะชาร์จพลังใจให้ทำงานอย่างมีความสุขได้อย่างไรดี?

A. นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “ทุกองค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่ตามประสาปุถุชนคนเรานั้นย่อมจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่จะมีผลกระทบต่อเรา และส่วนใหญ่มักจะมองการเปลี่ยนแปลงในทางลบมากกว่าทางบวกเสมอ นั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเราสามารถที่จะก้าวข้ามความรู้สึกส่วนตัวที่จะทำให้สัมพันธภาพในที่ทำงานเลวลงแล้ว การงานของทุกคนก็จะสามารถประสบความสำเร็จมากขึ้น การมองว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้เกิดประโยชน์แก่ตนเองนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น เพราะคงจะยากที่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นที่ถูกใจของทุกคน แต่ถ้าเราสามารถที่จะมองการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา เพราะแท้ที่จริงแล้วผลงานของเรานั้นก็เป็นผลงานที่เราแข่งกับตัวเองมิใช่หรือ คุณค่าของเราก็อยู่ที่ว่าเราสามารถที่จะทำงานได้ดีมากกว่าเดิมหรือมิใช่ แล้วเราจะมากังวลต่อการเปลี่ยนแปลงทำไมในเมื่อเราก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวของตัวเราเองให้ดีขึ้นอยู่แล้ว

He Said/She Said

ต่อ พนักงานบริษัท

“ผมว่าผู้หญิงยุคสมัยนี้เขามีเสน่ห์นะครับ บางคนก็น่ารัก บางคนสวย บางคนแอบเท่ สเปกผมเลยไม่มีเลย (หัวเราะ) คือผมจะชอบผู้หญิงช่างเอาใจนะครับ”

แนน พนักงานบริษัท

“ชอบหนุ่มๆ ที่มีหนวดค่ะ ดูน่าค้นหา ดูเป็นแมนดี ไม่ชอบแบบตี๋ๆ ดูแล้วจะเบื่อง่าย แต่ถ้าตี๋แล้วมีหนวดก็โอเคนะคะ (หัวเราะ)”

ภาพจอร์จ เอส. แพตตัน นายพลคนดังของสหรัฐสมัยสงครามโลก ครั้งที่2

ภาพจอร์จ เอส. แพตตัน นายพลคนดังของสหรัฐสมัยสงครามโลก ครั้งที่2

Quote

“ผมไม่เคยวัดความสำเร็จของคนจากการไต่เต้าขึ้นไปได้สูงที่สุด แต่จะวัดเมื่อเขาตกลงไปสู่จุดต่ำสุด แล้วสามารถจะไต่กลับคืนมาได้สูงแค่ไหนมากกว่า”

จอร์จ เอส. แพตตัน นายพลคนดังของสหรัฐสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับแทรก MAGZ วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2556 หน้า 11

 

About The Author

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.