Select Page

หยุดยาวอย่าประมาทโจรระบาดจ้องยกเค้า

หยุดยาวอย่าประมาทโจรระบาดจ้องยกเค้า

เทศกาลสงกรานต์จะมาถึงอีกแล้ว ยิ่งบ้านเมือง อยู่ในสถานการณ์ไม่สงบ ตำรวจต้องแบ่งกำลังไปดูแลผู้ชุมนุมทางการเมือง จะเป็นช่องว่างให้หัวขโมยอาศัยช่องว่างนี้ มางัดแงะเอาทรัพย์สินที่หามาได้ตลอดทั้งชีวิตไปได้

          บ้านช่องห้องหอสมัยนี้กว่าจะหามาได้ว่ายากลำบากแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทรัพย์สินต่างๆที่มีอยู่จะรักษาเอาไว้ก็ยิ่งลำบากกว่าหลายเท่าออกจากบ้านไปทำงานแต่ละวัน ต้องคอยพะวงว่าจะมีพวกตีนแมวทะลึ่งเข้ามางัดแงะขโมยของเข้าวันไหนหรือเปล่า

          เหมือนอย่างเหตุที่เกิดในพื้นที่ สน.บึงกุ่ม ตำรวจรวบช่างก่อสร้างที่ริเป็นโจรย่องเบาได้ยกแก๊ง ช่างก่อสร้างพวกนี้ย่องเข้าไปงัดบ้านข้าราชการบำนาญในหมู่บ้านศรีนครซอย 15

          ขนเอาเครื่องเสียง พระเครื่อง โซฟา สุขภัณฑ์ไปเกือบหมด แถมย่ามใจตระเวนทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าในบ้านละแวกเดียวกันอีก อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ถ้าขนไม่หมดก็ย้อนกลับมายกเค้าใหม่ ในที่สุดตำรวจจับได้ 4 คน หลบหนีไปได้ 2 คน

          ประกอบด้วย นายสันติ เพิ่มพร อายุ 28 ปี นายอาทิตย์ พวงจันทร์ อายุ 23 ปี นายสมพงษ์ เมืองเดช อายุ 23 ปี และนายณัฐวุฒิ สาคริน อายุ 21 ปี จับได้พร้อมของกลางทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ เช่นทองรูปพรรณ นาฬิกาข้อมือ บัตรเครดิตบัตรเอทีเอ็มชุดเครื่องเสียง พระเครื่อง เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์การงัดแงะ รวมทั้งสิ้น 44 รายการนางวลาศินี รักขาว ข้าราชการบำนาญ เหยื่อหัวขโมย เล่าว่า ขณะนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้าน ได้สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะได้ยินเสียงคนเดินอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน พอมองลอดช่องประตูก็เห็นคนร้ายใช้ไฟฉายส่องดูรอบบ้าน เธอจึงเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องรอจนกระทั่งกลุ่มโจรลงไปชั้นล่าง

          พอเปิดหน้าต่างห้องดูก็เห็นคนร้าย 3 คน กำลังขนทรัพย์สินของออกไปหลังบ้าน เธอจึงตะโกนว่าตำรวจๆ ทำให้คนร้ายทั้งหมดรีบปีนรั้วหลบหนีไปทันที

          หลังจากคนร้ายหนีไปแล้ว ได้ลงมาตรวจสอบที่ชั้นล่าง พบว่า คนร้ายทิ้งพระพุทธรูปไว้ที่ขอบหน้าต่าง 1 องค์ และตกอยู่ในรั้ว 1 องค์ นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีทรัพย์สินหายไปอีก 17 รายการ ส่วนใหญ่จะเป็น

          เอกสารสำคัญต่างๆ กับบัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิต จนตำรวจจับกุมได้ เช่นเดียวกับ น.ส.ชนินันท์ อังคสุวรรณพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง อาศัยอยู่

          ในหมู่บ้านศรีนครซอย 15 ละแวกเดียวกันก็ถูกกลุ่มผู้ต้องหาบุกเข้าไปลักทรัพย์มาแล้ว2 ครั้ง เนื่องจากเธอจะพักอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง และจะมาที่บ้านหลังเกิดเหตุแค่วันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น

          อย่างไรก็ตาม บ้านหลังนี้ถูกคนร้ายขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว คนร้ายบุกเข้ามาขโมยโทรทัศน์ วิทยุ เครื่องเสียง และพระเครื่องไปหลายรายการ โดยแจ้งความไว้แล้วแต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ส่วนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา คนร้ายกลับหวนเข้ามาลักทรัพย์ที่บ้านอีกครั้ง แต่ได้ทรัพย์สินจำพวกเครื่องปั้นเซรามิกราคาแพงเท่านั้น จึงไม่ได้แจ้งความ

          จนกระทั่งล่าสุดเช้าวันที่ 25 มี.ค. น.ส.ชนินันท์กลับเข้ามาที่บ้าน ก็ต้องพบว่าคัตเอาต์กับสายไฟทั้งหมดภายในบ้านถูกคนร้ายงัดแงะไปหมด นอกจากนั้นสุขภัณฑ์ทั้งก๊อกน้ำ ฝักบัว เฟอร์นิเจอร์ ชุดโซฟาในบ้านถูกคนร้ายเอาไปจนเกลี้ยง เหลือแค่เครื่องปรับอากาศไว้

          เธอจึงคิดว่าคนร้ายน่าจะย้อนกลับมาเอาทรัพย์สินอีกครั้ง จึงไปแจ้งความไว้ และเป็นไปตามที่เธอคิดคนร้ายย้อนกลับมาเอาทรัพย์สินอีกครั้ง และถูกจับในที่สุด

          พอถูกรวบคาหนังคาเขา ผู้ต้องหาเปิดปากให้การรับสารภาพว่า ในแก๊งมีทั้งหมด 6 คน โดยทำงานเป็นช่างก่อสร้างอยู่ละแวกหมู่บ้านที่เกิดเหตุ และติดยาบ้าเลยนัดแนะกันตระเวนงัดบ้านเข้าไปขโมยทรัพย์สินโดยจะเลือกเฉพาะบ้านที่แปะป้ายให้เช่า และไม่มีคนอยู่เท่านั้น เมื่อได้เงินมาก็แบ่งกันไปซื้อยาบ้ามาเสพและใช้จ่ายส่วนตัว

          อย่างไรก็ตาม เมื่อมิจฉาชีพเหล่านี้มักจะจ้องบ้านที่เป็นเป้าหมายไม่มีคนอยู่ ทำให้ช่วงเทศกาลนี้วันหยุดยาวก็ย่อมมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยขึ้นบ้านมากขึ้น

          มีตัวอย่างให้เห็นวันหยุดสงกรานต์ปีที่แล้ว มีสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ทำให้รัฐบาลต้องประกาศให้มีวันหยุดยาวนานมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาเชื่อหรือไม่ว่า ที่ อ.เมือง จ.ตรัง ที่เดียว ในวันที่ 16 เม.ย. 2552 หมู่บ้านสตาร์แลนด์มีบ้าน 8 หลังถูกขโมยขึ้นติดๆ กัน

          หลังแรกเป็นของ นางละมุล บางวัฒนกุล อายุ 61 ปี คนร้ายได้งัดหน้าต่างเข้ามา ขนเอาของมีค่าไปหลาย

          รายการ หลังที่ 2 เป็นบ้านของ น.ส.อัจจิมา ธวัชธาดา อายุ 31 ปี ข้าราชการครู จ.สตูล คนร้ายได้ถอด

          บานเกล็ดหน้าต่าง ด้านหลังบ้านเข้ามารื้อค้นทรัพย์สินขโมยเอาจตุคามรามเทพ ที่วางไว้บนหิ้งพระหน้าห้องนอนได้หายไปรวม 20 องค์

          บ้านหลังที่ 3 ของนายชาญศักดิ์ กันตังวัฒนาไพบูลย์ อายุ 49 ปี คนร้ายได้งัดแงะหน้าต่างบานเลื่อนของห้องครัว เข้ามารื้อค้นทรัพย์สิน แต่ไม่ได้อะไรไปบ้านหลังที่ 4 ของนางพิณโญ ตันทัดยคุปต์ อายุ 63

          ปี ไม่พบทรัพย์สินสูญหาย พบเพียงแต่ร่องรอยการรื้อค้นตามตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานและลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง

          บ้านหลังที่ 5 ของนายศราวุธ พิศาลกิตติคุณ อายุ33 ปี คนร้ายได้ถอดบานเกล็ดหน้าต่างห้องครัวเข้ามาในบ้าน และเปิดประตูเข้าห้องนอนผู้เสียหาย หยิบเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทองไป และบ้านหลังที่ 6 ของนางนฤมล ปานแดงอายุ 47 ปี คนร้ายได้งัดประตูหลังบ้านเข้ามาได้เพียงมีดเดินป่าไป 1 เล่ม นอกจากนั้นมีบ้านอีก 2 หลัง ที่เจ้าของไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากเห็นว่าคนร้ายเข้ามารื้อค้นทรัพย์สินแต่ไม่ได้เอาอะไรไป

          สำหรับบ้านทั้ง 8 หลังที่ถูกโจรขึ้น ส่วนใหญ่กลับไปเยี่ยมบ้านในช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ตำรวจคาดว่าคนร้ายอาศัยวันหยุดเทศกาลเข้ามาสังเกตการณ์ภายในหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งเป็นบ้านราคาแพง แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแน่นหนา ก่อนรื้อค้นเอาทรัพย์สินและของมีค่าไป

          ไม่เฉพาะเทศกาลเท่านั้น แค่วันหยุดทางศาสนาอย่างอาสาฬหบูชา และวันออกพรรษา มีช่องเพียงนิดหน่อยโจรก็เอาแล้ว ตัวอย่างจากกรณีของนายพิศนุพงศ์อัชฌา ผู้จัดการบริษัทนำเข้าเครื่องมืออุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ซื้อบ้านอยู่ที่โครงการเพอร์เฟกเพลส ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง ทั้งๆ ที่อยู่ในย่านหรูหรา และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างดี แต่บ้านทรงยุโรปเนื้อที่100 ตารางวา ก็ไม่วายถูกโจรงัดเข้าทางประตูหลังบ้าน

          นักธุรกิจคนนี้ให้การว่าห้องนอนชั้น 2 ถูกคนร้ายรื้อค้นกระจุยกระจาย มีการลากตู้เซฟขนาดใหญ่น้ำหนัก 75 กิโลกรัม และขนาด 50 กิโลกรัม มาทิ้งกลางห้องแล้วใช้เครื่องเจียรตัดข้อพับประตูเซฟทั้งสองตู้เปิดกวาดเอาทรัพย์สินเป็นทองคำแท่งหนัก 320 บาททองรูปพรรณหนัก 60 บาท เงินสด 1 ล้านบาท นาฬิกาโรเล็กซ์ 2 เรือน พระเครื่องนับ 10 องค์ พร้อมเครื่องเพชรอีกจำนวนหลายรายการมูลค่าไม่ต่ำกว่า10 ล้านบาท

          นายพิศนุ บอกว่า ปกติจะอยู่กับภรรยาเพียงลำพังแต่เมื่อวันอาสาฬหบูชา มีวันหยุดหลายวัน จึงพาภรรยาและลูกน้องไปพักผ่อนที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อกลับมาบ้านลมแทบจับ ทรัพย์สินมีค่าถูกกวาดไปเรียบ

          ดังนั้น เทศกาลสงกรานต์จะมาถึงอีกแล้ว ยิ่งบ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ไม่สงบ ตำรวจต้องแบ่งกำลังไปดูแลผู้ชุมนุมทางการเมือง จะเป็นช่องว่างให้หัวขโมยอาศัยช่องว่างนี้ มางัดแงะเอาทรัพย์สินที่หามาได้ตลอดทั้งชีวิตไปได้ สมัยนี้ไม่ว่าจะบ้านใหญ่ บ้านเล็กหรูหราหรือเป็นแค่ทาวน์เฮาส์ ห้องเช่าริมถนน เผลอเมื่อไหร่ก็เสร็จโจรได้เมื่อนั้น

          ฝากบ้านกับตำรวจดีกว่า

          พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงโครงการฝากบ้านกับตำรวจในเทศกาลสงกรานต์ว่า แม้จะมีการชุมนุมของคนกลุ่มเสื้อแดง แต่ในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตำรวจยังต้องทำต่อไป สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้แต่ละสถานีส่งตำรวจไปดูแลพื้นที่ทุกแห่ง และสั่งให้นักเรียนนายร้อยอบรมเข้ามาช่วยในโครงการอีก 200 นาย

          อย่างไรก็ตาม ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการว่า ตำรวจจะดูแลบ้านอย่างดีให้ได้รับความปลอดภัยในทรัพย์สินตำรวจจะทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ส่วนใหญ่ประชาชนจะเดินทางออกต่างจังหวัดทำให้บ้านที่เจ้าของบ้านไม่อยู่จะตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพก่อเหตุได้ ดังนั้นต้องระวังให้ดีหากบ้านไม่มีคนเฝ้าควรมาร่วมโครงการฝากบ้านกับตำรวจ หรือล็อกบ้านให้แน่นหนาติดกล้องวงจรปิด หรือฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้านเพื่อความไม่ประมาท–จบ–

 

          ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันอังคารที่ 6 เมษายน 53

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.