เรือหลวงปัตตานี : เรือรบของหมู่เรือปราบปราบโจรสลัดโซมาเลีย
กองทัพเรือไทยส่งหมู่เรือปราบปราบโจรสลัดไปปฏิบัติภารกิจร่วมกับกองกำลังผสมนานาชาติ ประกอบด้วยเรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงปัตตานี พร้อมกำลังพล 351 นาย โดยมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองเรือสัญชาติไทย และปราบโจรสลัดที่อาละวาดหนักช่วงหลายปีมานี้ในบริเวณอ่าวเอเดน และชายฝั่งประเทศโซมาเลีย นอกจากนี้ยังเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของราชนาวีไทยที่ออกปฏิบัติภารกิจในระยะทางไกลที่สุดและยาวนานถึง 98 วัน
เรื่อง: -สายสวรรค์ ขยันยิ่ง
ปัญหาโจรสลัดบริเวณอ่าวเอเดน และชายฝั่งประเทศโซมาเลียนั้นเป็นข่าวมานาน โจรสลัดอาวุธครบมือ ที่ยึดเรือสินค้า เรือบรรทุกน้ำมัน และเรือประมง เพื่อเรียกค่าไถ่จากเจ้าของเรือสัญชาติต่างๆ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวนี้ เชื่อมระหว่างมหาสมุทรอินเดีย กับทะเลแดง ที่ติดกับคลองสุเอซ ซึ่งเป็นคลองที่ต่อเชื่อมกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของทวีปยุโรป เรียกว่าเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญของโลก มีเรือสินค้าผ่านราว2,000 ลำใ นแต่ละปีรวมทั้ง เรือสัญชาติไทยด้วย…ซึ่งเรือไทยก็ไม่รอดพ้นจากการปล้นของโจรสลัดกลุ่มนี้ โดยเฉลี่ยเรือสัญชาติไทยจะถูกปล้นอย่างน้อย 1 ลำแทบทุกเดือน และในเดือนเมษายนปี 2553 ถูกจับพร้อมกันถึง 3 ลำ !!!!
ก่อนหน้านี้ชาติต่างๆ ที่ต้องเดินเรือผ่านอ่าวเอเดน ได้ส่งกองเรือเข้าคุ้มกันเรือของตัวเอง และเริ่มมีการประสานความร่วมมือส่งกำลังเข้าปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันแล้วกว่า 20 ชาติ และล่าสุดกองทัพเรือไทยก็ได้ส่งหมู่เรือ ซึ่งประกอบด้วยเรือหลวงสิมิลัน เรือหลวงปัตตานี เฮลิคอปเตอร์ประจำเรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษทางเรือ (Seal Team) รวมกำลังพล 351นาย ไปปฏิบัติภารกิจปราบปราบโจรสลัด โดยมี พล.ร.ต.ไชยยศ สุนทรนาค เป็นผู้บังคับหมู่เรือ ใช้เวลาปฏิบัติการทั้งสิ้นถึง 98 วัน
เรือหลวงสิมิลันเป็นเรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือไทย ส่วนเรือหลวงปัตตานีก็เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ที่มีขีดความสามารถสูง มีระบบอำนวยการรบที่ทันสมัยที่สุด แม้ว่าเรือทั้ง 2ลำจะไม่เคยเดินทางไกลถึงกว่า 5,000 ไมล์เช่นนี้มาก่อน แต่กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกซ้อมอย่างหนัก ทั้งการนำและการเดินเรือ การปฏิบัติการยุทธวิธีต่างๆ การใช้อาวุธ ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับประเทศเป้าหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กำลังพลทุกนายจึงมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจนี้เป็นอย่างดี
ดิฉันไปสังเกตุการณ์ความพร้อมของเรือหลวงปัตตานี ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2553ก่อนหน้าที่หมู่เรือจะออกเดินทางเพียง 2 วัน ได้สัมภาษณ์นาวาโทสาทิพ จิตนาวา ผู้บังคับการเรือหลวงปัตตานี ซึ่งก็แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในภารกิจนี้อย่างมาก แม้จะเป็นปฏิบัติการที่ทหารเรือไทยยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ความท้าทายเช่นนี้เอง ที่กลายเป็นความต้องการของชายชาติทหาร เพราะไม่เพียงแต่เป็นการเขียนบันทึกหน้าใหม่ของราชนาวีไทยเท่านั้น แต่ยังจะทำให้นานาชาติยอมรับในความสามารถของกองทัพเรือไทยด้วย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ชมคลิปวิดีโอเบื้องหลังการถ่ายทำในวันนั้น ซึ่งเป็นภาพจากกล้องส่วนตัว ถ่ายทำซ้อนกล้องโทรทัศน์ของช่อง3 บางมุมจึงอาจไม่ชัดเจนเท่าที่ควร แต่อย่างน้อยก็ได้ทำให้ได้รู้จักเรือหลวงปัตตานี มากขึ้นค่ะ