Select Page

มหัศจรรย์ มะม่วง 2 สัญชาติ

มหัศจรรย์ มะม่วง 2 สัญชาติ

กลับมาอีกครั้งกับงานเกษตรมหัศจรรย์ งานที่รวบรวมทุกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรมและความมหัศจรรย์ของพันธุ์พืช ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด “คุณค่าพืชพันธุ์ธัญญาหาร”

เรื่อง อรรถนนท์ จันทร์ทวีศักดิ์

 

          เมื่อพูดถึงคำว่า “มหัศจรรย์” ซึ่งแน่นอนว่าต้องหมายถึง ไม่ธรรมดาเป็นแน่…!! วันนี้ทีมงานเว็บไซต์ จึงขอนำเสนอ พืชพันธุ์ประเภทไม้ผล อย่างเช่น มะม่วง ที่คนไทยและชาวต่างชาตินิยมรับประทาน แต่ไม่ธรรมดาเหมือนที่หลายๆคนเคยพบเห็น มะม่วงพันธุ์นี้ มีผลใหญ่อยู่ที่น้ำหนัก 0.8-1.0 กิโลกรัมต่อ 1 ผล สีของผลเป็นสีแดง ทำให้สะดุดตาด้วยสีสัน และความใหญ่ยักษ์ของผล นั้นคือ “มะม่วงน้ำดอกไม้แดง”      

           “มะม่วงน้ำดอกไม้แดง” เป็นมะม่วงที่ถูกผสมพันธุ์กันระหว่างมะม่วงสายพันธุ์ จากไต้หวัน ซึ่งมะม่วงสายพันธุ์จากไต้หวัน ส่วนใหญ่จะมีเอกลักษณ์บ่งบอกถึงถิ่นกำเนิดอย่างชัดเจนคือ ผลจะมีขนาดใหญ่ สีผลเป็นสีแดงหรือสีม่วง ปัจจุบันมีผู้นำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยหลายสายพันธุ์ แต่ละพันธุ์ยังมีการแยกรูปทรงและขนาดของผลได้อีกถึง 6 ลักษณะ เรียกกันเป็นเบอร์ต่างๆ ถึง 6 เบอร์       

             อาจารย์ธีระ เจริญกิจ ผู้ชำนาญงานด้านปรับปรุงพันธุ์พืช อธิบายว่า “ มะม่วงน้ำดอกไม้แดง   เป็นลูกผสมระหว่างมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองกับมะม่วงยู่เหวินเบอร์ 6 จากไต้หวัน ผลปรากฏว่าทรงผลยาวรีคล้ายผลมะม่วงน้ำดอกไม้ แต่ผลมีขนาดใหญ่กว่าเยอะ ก้นผลไม่งอนเหมือนมะม่วงน้ำดอกไม้ สีของผลเป็นสีแดงเหมือนกับสีผลมะม่วงยู่เหวิน ผลมีขนาดใหญ่น้ำหนักเฉลี่ย 0.8-1.5 กิโลกรัมต่อผล เปลือกผลขณะดิบเป็นสีม่วง เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ สำหรับมะม่วงที่นำมาผสมพันธุ์ของสายพันธุ์ไทย คือ “มะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง” เป็นมะม่วงที่กลายพันธุ์มาจากพันธุ์น้ำดอกไม้พระประแดง ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมจากตลาดโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ นิยมรับประทานในผลสุก เป็นพันธ์ที่เจริญเติบโตได้ดีและเร็ว ผลดก มีขนาดใหญ่หนักประมาณ 300-400 กรัม ผลดิบจะมีรสเปรี้ยว ผิวสีเขียวนวล เนื้อแน่น ผลสุกมีผิวเหลือง กลิ่นหอมรสหวาน ซึ่งเป็นที่ถูกปากถูกคอของผู้ที่ชอบรับประทานมะม่วงในรสชาติของมะม่วงสายพันธุ์นี้  จากมะม่วง 2 สายพันธุ์ ที่มีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีการพัฒนาสายพันธุ์มะม่วงมาเป็น “มะม่วงน้ำดอกไม้แดง”

           เนื้อสุกเป็นสีเหลืองทอง มีเสี้ยนน้อยมาก ไม่มีกลิ่นเหม็น เมล็ดลีบ รสชาติหวานเข้มและหอมเทียบเคียงได้กับรสชาติมะม่วงน้ำดอกไม้ และความอร่อยเหมือนกับมะม่วงยู่เหวินเบอร์ 6 ความหวานวัดได้ประมาณ 18–19 บริกซ์ ( เกณฑ์มาตรฐานของการวัดความหวาน ไม่ต่ำกว่า 17 บริกซ์ )  ผลดิบเปรี้ยวจัด เมื่อผลแก่หรือห่ามความเปรี้ยวลดลงแต่ไม่มันเหมือนกับมะม่วงเขียวเสวย ผลสุกเก็บได้นานถึง 12 วัน เนื้อไม่ช้ำหรือเละง่าย ขยายพันธุ์ด้วยการเสียบยอดกับตอมะม่วงพื้นเมือง ติดผลปีละ 2 ครั้ง ถ้าปลูกลงดินจะติดผลในเวลา 2-3 ปี ต้นสูง 3 เมตร เลยทีเดียว”  

        อาจารย์ธีระ เล่าต่อว่า “การพัฒนาสายพืชพันธุ์ต่างๆ ต้องอาศัยปัจจัย 2 อย่าง คือ สายพันธุ์ที่ดี และการบริหารจัดการ เรื่องของดิน การดูแลที่พันธุ์ไม้แต่ละชนิดที่เหมาะสม ซึ่ง2 ปัจจัยนี้เป็นสิ่งที่ผู้สนใจต้องเรียนรู้และให้ความใส่ใจในการเพาะปลูกพืชทุกชนิด จึงจะทำให้การเพาะปลูกพืชนั้นประสบผลอย่างที่ตั้งใจ ไม่เพียงแต่เฉพาะสายพันธุ์มะม่วง ”

        มะม่วงน้ำดอกไม้สีแดง ถือเป็นพืชไม้ผลอีกชนิด ที่จะจุดประกายความคิดของเกษตรกรไทยในการเพาะปลูก  ด้วยคุณภาพและความโดดเด่นที่ผลใหญ่ยักษ์ และรสชาติหวานอร่อย สามารถเป็นจุดขายในการนำสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลกได้ไม่ยาก….. 

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.