กระทบไหล่ แทมมี ดักเวิร์ธ ภูมิใจเสมอที่เกิดเป็น”คนไทย”
ชื่อของ พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ดูจะคุ้นชินกับคนไทยตั้งแต่การเลือกตั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว ในฐานะผู้สมัครอดีตทหารผ่านศึก ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยนักบินเฮลิคอปเตอร์ ร่วมรบในสงครามอิรัก ก่อนที่เธอจะถูกยิงโจมตีขณะบินออกลาดตระเวนเมื่อปี 2547 ทำให้สูญเสียแขนขวา และขาทั้ง 2 ข้าง
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้แทมมีอุทิศชีวิตให้กับการกุศล และเบนเข็มเข้าสู่วงการการเมือง ในฐานะสมาชิกพรรคเดโมแครต ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์คนอเมริกันสายเลือดไทยคนแรกที่ชนะเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่คว้าเก้าอี้ในเขตเลือกตั้งที่ 8 ของมลรัฐอิลลินอยส์ และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย รมว.กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก
ชื่อเสียงของเธอเป็นที่กล่าวขวัญทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย ยิ่งเมื่อได้เห็นภาพของเธอปรากฏเคียงคู่ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยิ่งทำให้ใครๆ อยากรู้จักเธอมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด เธอเดินทางมาเยี่ยมแผ่นดินแม่เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐให้แน่นแฟ้น แม้จะจากไปเป็นระยะเวลานาน หากเธอบอกว่า
ยังระลึกและภูมิใจเสมอที่ได้เกิดเป็นคนไทย เพราะสายเลือดครึ่งหนึ่งได้จากแม่คนไทย
การมาครั้งนี้เธอได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากการเดินสายพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดความรู้ให้กับเหล่านิสิตนักศึกษา รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้กับเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่แทมมีออกตัวว่า
เป็นรุ่นน้องที่มาขอรับคำแนะนำจากรุ่นพี่ในการทำงาน ด้วยภาษาไทยสำเนียงอเมริกันที่น่าเอ็นดูให้สายตาของคนฟัง
“แม้ไม่ได้กลับมาเมืองไทยหลายปี แต่ก็รู้สึกได้ว่าหญิงไทยก้าวหน้ามากขึ้นในหลายๆ ด้าน และรู้สึกภูมิใจมากที่มีเชื้อสายไทย เพราะความสำเร็จต่างๆ เกิดขึ้นได้เพราะว่าได้เริ่มต้นชีวิตที่ประเทศไทย การที่ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยในฐานะ ส.ส.สหรัฐจึงรู้สึกดีเป็นพิเศษ” หญิงเก่งหัวใจแกร่งกล่าวบนรถวีลแชร์ สองขาของเธอใส่ขาเทียมที่ข้างหนึ่งเป็นลายธงชาติอเมริกา แต่หากสังเกตให้ดี เธอใส่รองเท้าส้นสูงด้วย เริ่ดดดดดด!! ซะไม่มี
ยิ่งไปกว่านั้นคือผู้หญิงเชื้อสายไทยคนนี้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า การได้รับตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมาจากสติปัญญาและหัวใจที่แข็งแกร่ง
สหรัฐต้องการคนทำงานที่หลากหลายทั้งผู้หญิงคนพิการ และคนต่างสัญชาติเข้ามาทำงาน บวกกับการที่แทมมีพิการจากการทำงานเพื่อประเทศ ความรู้สึกของคนอเมริกันจึงมองแทมมีว่า เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ รวมถึงเชื่อมั่นในการทำงานของแทมมีด้วย
ใช่เพียงเท่านั้น เธอมองความพิการเป็นโอกาส เป็นข้อดีเสียด้วยซ้ำที่แทมมีเป็นผู้หญิงพิการที่มีเชื้อชาติไทย เพราะมันทำให้แทมมีได้เห็นปัญหาหลายๆ อย่างโดยตรง เช่น ปัญหาการหลบเข้าเมือง หรือสวัสดิการที่คนพิการควรได้รับ และถือว่าโชคดีที่เราเข้ามาทำงานในช่วงที่กฎหมายให้สิทธิคนพิการมาก ไม่ว่าอยากจะทำอะไรก็ได้ทำ เราคิดเพียงแค่ว่า เราต้องการทำเพื่อประเทศชาติ นั่นก็เป็นสาเหตุที่อุปสรรคทั้งหลายหมดไป
เมื่อถามถึงความเหมือนและแตกต่างของผู้หญิงไทยและผู้หญิงอเมริกันแทมมีบอกว่าความสามารถของสตรีไทยและสหรัฐเท่ากัน แต่สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร สาเหตุหลักไม่ได้เกิดจากการพัฒนาของประเทศ แต่เกิดจากตัวของผู้หญิงเอง อย่างในอดีตแทมมีเคยไปเรียนขับเฮลิคอปเตอร์ซึ่งมีผู้หญิงน้อย ทั้งที่ผู้หญิงก็สมัครได้ แต่ผู้หญิงกลับไม่ยอมสมัคร เพราะไม่คิดว่าทำได้ หลายครั้งที่ผู้หญิงไปจำกัดตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศมีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน แทมมีอยู่สหรัฐมีโอกาสมากกว่าสตรีชาวไทย แต่ผู้หญิงไทยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นลงสมัครรับเลือกตั้งให้มากขึ้น และได้รับเลือกเป็น ส.ส.มากขึ้น เพื่อจะได้เข้าไปเปลี่ยนข้อกำหนด หรือกฎหมายต่างๆ ของประเทศให้ดีขึ้น เราทำได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือคนพิการ
กว่าจะมีวันนี้ได้ แทมมี เผยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า ต้องเกิดจากความพยายามของตัวเอง เพื่อทำหน้าที่ให้ดี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม
สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องหาดุลยภาพที่เหมาะกับชีวิตของเรา อาจจะยากหรือต้องเสียสละบ้าง และอาจจะยากที่จะผลักดันตัวเองให้กระตือรือร้นในการทำงาน แต่เพื่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ผู้หญิงต้องลุกขึ้นมาจากกรอบเก่าๆ อย่ากลัวที่จะผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นอาชีพใด สิ่งสำคัญที่สุดคือ เมื่อล้ม เรายังลุกขึ้นมาใหม่ และก้าวเดินต่อไป ต้องต่อสู้ต่อไป เพื่อให้ผู้หญิงรุ่นต่อจากเราประสบความสำเร็จมากกว่าเรา
แม้ในปัจจุบันเราจะเห็นความคืบหน้าบ้าง แต่สถานภาพที่เป็นอยู่ยังไม่ดีพอ ผู้หญิงต้องเรียกร้องมากกว่านี้ เพราะเราอยู่ในช่วงเวลาพิเศษในยุคที่เชื่อว่า ผู้หญิงสามารถควบคุมชีวิตของตนเองได้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ต้องก้าวไปข้างหน้าและมีความกล้าหาญที่จะบรรลุสิ่งที่คนอื่นไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ต้องยืนหยัดเพื่อเพื่อนสตรี รวมทั้งสู้กับการกีดกันสตรี ไม่ว่าจะในเมืองอิลลินอยส์หรือในกรุงเทพฯ วิธีที่ดีที่สุดคือการก้าวไปข้างหน้าและสร้างความก้าวหน้าด้วยการยืนหยัดเคียงข้างกัน
การเข้ามายืนในจุดจุดนี้และได้ทำเพื่อผู้อื่น “แรงบันดาลใจมาจากคำพูดของฮิลลารี คลินตัน อดีต รมต.ต่างประเทศ” เธอเผย ฮิลลารีกล่าวว่า ในนรกมีสถานที่พิเศษสำหรับผู้หญิงที่ไม่ช่วยผู้หญิงด้วยกัน เป็นเหมือนคติประจำใจที่แทมมีระลึกอยู่เสมอเพื่อใช้เป็นแรงผลักดันในการทำงานเพื่อผู้หญิงด้วยกันเสมอมา
“ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงจากพื้นที่ใดจะพิการหรือไม่ สำคัญอยู่ที่เริ่มขึ้นมาทำอะไรสักอย่างด้วยความพยายาม แล้วมันจะดีขึ้นเอง” เสียงเล็กๆ อันสดใสฝากไว้ให้หญิงไทย
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 3 กันยายน 2556 หน้า 25