“โจซี่ นาโทริ” หญิงฟิลิปปินส์ ที่สร้างตัวเป็น มหาเศรษฐี ในอเมริกา!!!
คำว่า เศรษฐี มหาเศรษฐี อาจดูเป็นเรื่อง “ไกลเกินฝัน” สำหรับบางคน แต่บางคนกลับดูเหมือนไม่ยากเลย ยิ่งใครก็ตามที่มีความตั้งใจจริงเป็นทุนเดิมติดตัวและ “ความมุ่งมั่น” ตั้งใจนี่ล่ะ ที่น่าจะเป็นคุณสมบัติสำคัญ และเป็นข้อแตกต่าง ที่ทำให้ใครบางคนกลายเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีไปแล้ว ขณะที่บางคนยังไม่สามารถเป็นเศรษฐีกับใครสักที เพราะมีแต่ความฝันแต่ไม่เคยมีความตั้งใจที่จะลงมือทำฝันให้เป็นจริง!!!
ชีวิตการต่อสู้ สร้างตัวของ นางโจซี่ นาโทริ หญิงฟิลิปปินส์ ที่ตัดสินใจจากบ้านเกิดไปร่ำเรียน และทำมาหากิน ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ยังเป็นสาวรุ่น กระทั่งตอนนี้เธอสามารถเป็นเจ้าของบริษัท นาโทริ คัมปานี ในนิวยอร์ก ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่นชุดชั้นใน ชุดนอนสตรี เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน น้ำหอม ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าวางขายตามห้างใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกา และในต่างประเทศอีกราว 15 ประเทศ ด้วยมูลค่าขายปลีกเมื่อปีที่แล้วถึง 150 ล้านดอลลาร์ (ราว 4,620 ล้านบาท) น่าจะเป็นตัวอย่างได้อย่างดีถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจว่าเป็นหัวใจของความสำเร็จ ด้วยเธอผู้นี้ฝันอยากมีธุรกิจของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก และไม่เคยทิ้งความตั้งใจนี้เลย
โจซี่ ในวัย 64 ซึ่งติด 1 ใน 7 ชาวต่างชาติที่สร้างตัวจนเป็นมหาเศรษฐีในสหรัฐอเมริกา จากรายงานของเว็บการเงินของยาฮู เล่าว่า ย้อนไปราว 48 ปีที่แล้ว หรือเมื่อปี พ.ศ.2507 เธอตัดสินใจเดินทางจากฟิลิปปินส์ บ้านเกิด มาเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ที่ วิทยาลัยแมนฮัตตันวิลล์ ในเมืองเวสต์เชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ซึ่งพอมาถึง เธอก็ต้องเผชิญกับสภาพวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่แตกต่างจากบ้านเกิดอย่างสิ้นเชิง
“ไหนจะอากาศเย็นยะเยือกในฤดูหนาว อาหาร อารมณ์ขันของผู้คน ทุกอย่างมันแตกต่างไปหมด แล้วฉันก็คิดถึงบ้านจับใจ” โจซี่บอก แต่ทว่าอุปสรรคเหล่านั้น แม้จะทำให้นึกท้อบ้าง แต่เธอก็ว่า มันไม่เคยทำให้เธอละทิ้งความฝัน และความตั้งใจที่มี
เธอสามารถต่อสู้กับความทดท้อ กระทั่งเรียนจบ จากนั้น ก็เริ่มต้นชีวิตทำงานที่แรกที่ Bache & Company ในตลาดหุ้น ต่อจากนั้น จึงย้ายไปทำงานกับบริษัทหลักทรัพย์ Merrill Lynch เมื่อปี 2514 กระทั่งปี 2519 เธอจึงเริ่มคิดว่า ถึงเวลาที่เธอและสามี ควรมีธุรกิจของตัวเองแล้ว
“ที่จริงฉันชอบบรรยากาศการทำงานแข่งขันในตลาดหุ้น แต่ฉันก็ยังมีความฝันที่อยากจะมีธุรกิจของตัวเอง”
ทั้งนี้ หญิงนักธุรกิจคนเก่งเล่าว่า เธอใช้เวลาตั้งแต่เรียนและทำมาหากินอยู่ในสหรัฐอเมริกามา 10 ปี พอปี 2517 เธอจึงได้เป็นประชาชนอมริกัน และหลังจากคลอดลูกชายเมื่อปี 2519 เธอและ เคน สามีจึงคิดว่า ถึงเวลาที่พวกเขาจะมีธุรกิจของตัวเอง เธอเริ่มต้นธุรกิจแรกด้วยการเปิดร้านล้างรถ จากนั้น ก็เปิดเฟรนไชส์ ของ แมคโดนัลด์ กระทั่งมาสบจังหวะเหมาะ ปี 2520 ที่เธอมีโอกาสเข้าไปเสนอรับจัดซื้อชุดนอน ชุดชั้นในจากฝีมือแรงงานในฟิลิปปินส์ ให้แก่แผนกจัดซื้อของห้างบลูมมิ่งเดลส์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น กระทั่งปัจจุบันเธอสามารถต่อยอดขยายธุรกิจครอบคลุมไปถึงสินค้า น้ำหอม แว่นตา และของตกแต่งบ้าน ที่ปัจจุบันมีพนักงานที่เธอต้องดูแล 400 ชีวิต โดยมีสามีนั่งตำแหน่งประธานบริษัท ส่วนเคนเน็ธ ลูกชายนั่งตำแหน่ง รองประธานแผนกการเงิน และอี คอมเมิร์ซ
“บางคนอาจมองการเป็นคนต่างชาติ ต่างถิ่น เป็นอุปสรรค แต่ฉันกลับมองว่า มันเป็นคุณสมบัติที่ดีเลิศ นาโทริ ถือเป็นบริษัทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในโลกธุรกิจดีไซน์ ด้วยมนต์เสน่ห์การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกกับตะวันออก ซึ่งทั้งหมดนั้นมาจากรากเหง้า และความเป็นคนฟิลิปปินส์ของฉันนั่นเอง”
ที่มา :มติชนรายวัน ฉบับวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2555 หน้า 19