Select Page

ไทยเจ๋ง!วิจัยข้าวได้3พันธุ์ใหม่ทนน้ำ,ดินเค็ม,แล้งเตรียมจดสิทธิบัตร

ไทยเจ๋ง!วิจัยข้าวได้3พันธุ์ใหม่ทนน้ำ,ดินเค็ม,แล้งเตรียมจดสิทธิบัตร

สวทช.จับมือกรมการข้าว พัฒนา “พันธุ์ข้าวต้านโรคทนสภาพแวดล้อม” รับมือภาวะโลกร้อน สภาพอากาศแปรปรวน เผยเตรียมจดสิทธิบัตรรับรอง 3 พันธุ์ข้าวชนิดใหม่ของไทย ได้แก่ ข้าวทนน้ำท่วมฉับพลัน ข้าวทนดินเค็ม และข้าวต้านโรคไหม้ ตั้งเป้าภายใน 5 ปีจะมีข้าวพันธุ์ใหม่ของโลกเกิดขึ้น

        เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดพิธีลงนามความร่วมมือภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวนาน้ำฝนระยะที่ 2 เพื่อให้ข้าวมีความต้านทานต่อโรค แมลง และสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

          นายธีรยุทธ ตู้จินดา นักวิจัยข้าวศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ร่วมกันวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวนาน้ำฝนจนเกิดเป็น 3 สายพันธุ์ใหม่ ได้แก่ สายพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ทนน้ำท่วมฉับพลัน สายพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ทนดินเค็ม และสายพันธุ์ กข.6 ต้านทานโรคไหม้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอรับรองพันธุ์จากกรมการข้าว โดยคาดว่าจะได้ในเดือนกันยายน 2553 พร้อมทั้งจะดำเนินการจดสิทธิบัตรข้าวสายพันธุ์ใหม่ของโลกกับกระทรวงเกษตรฯ ภายในระยะเวลา 5 ปีจากนี้ไป

นายธีรยุทธบอกว่า สำหรับการพัฒนาพันธุ์ข้าวนาน้ำฝนระยะที่ 2 นี้ จะร่วมกันยกระดับพันธุ์ข้าวทั้ง 3 สายพันธุ์ให้มีคุณสมบัติสมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และรับมือภาวะโลกร้อน ซึ่งที่ผ่านมาข้าวไทยในหลายพื้นที่ประสบปัญหาข้าวเป็นหมัน ข้าวไม่ติดเมล็ด หรือต้องประสบกับโรคชนิดใหม่ๆ จึงได้นำเทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาช่วย โดยไม่ใช้กระบวนการตัดต่อพันธุกรรม หรือจีเอ็มโอ ซึ่งจะทำให้ร่นระยะเวลาพัฒนาพันธุ์ข้าวจาก 10 ปี เหลือ 5 ปีเท่านั้น รวมทั้งยังช่วยเพิ่มผลผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

          “ความร่วมมือดังกล่าวอาจจะทำให้รูปแบบของเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนไปจากเดิมบ้างเล็กน้อย แต่จะมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และที่สำคัญจะช่วยเสริมศักยภาพการส่งออกและแข่งขันกับต่างประเทศได้” นักวิจัยข้าวจากไบโอเทคกล่าว

          ดร.สุจินดา โชติพานิช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบุว่า การร่วมมือกันทำงานในเชิงบูรณาการทั้งสองหน่วยงาน จะช่วยให้การวิจัยและพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวไทยให้เกิดความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร ความร่วมมือครั้งนี้จะมีการสนับสนุนด้านบุคลากร ห้องปฏิบัติการ ครุภัณฑ์และงบประมาณ รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลการวิจัย การถ่ายทอดผลงานวิจัยและเทคโนโลยีที่ได้พัฒนาขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนางานวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพของประเทศ และจะนำไปสู่การขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนต่อไป

          ด้านนายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าว กล่าวเสริมว่า งานวิจัยหลักการผลิตข้าว คือการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้คงทนต่อสภาพแวดล้อม ที่ผ่านมากรมการข้าวประสบผลสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์ด้วยวิธีปกติ (Conventional breeding) ในปี พ.ศ.2549-2552 กรมการข้าวและ สวทช.ร่วมมือทำงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าวโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาช่วย ทำให้เกิดข้าวพันธุ์ใหม่ 3 ชนิดที่อยู่ระหว่างเสนอขอรับรองพันธุ์ โดยจุดเด่นของกรมการข้าวคือ โครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรเพื่อรองรับการวิจัยในสภาพแปลงทดลอง ขณะที่ สวทช.มีจุดเด่นในด้านเทคโนโลยีชีวภาพเกี่ยวกับการสืบค้นหายีนและการพัฒนาโมเลกุลเครื่องหมายดีเอ็นเอ ที่นำไปใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการผลิตข้าวไทย

ที่มา:นสพ.ไทยโพสต์

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.