
ความสุขจากการให้ แรงบันดาลใจจากในหลวง

การอ่านวรรณกรรมไทยที่มีคุณค่า โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการ “ให้”แล้วสร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นภาพวาด เป็นหัวใจของโครงการ “จินตนาการสืบสานวรรณกรรมไทยกับอินทัช ปีที่ 5” ที่ บ.ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนไทยรักการอ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอ่านวรรณกรรมที่ให้ข้อคิดสอนใจและทำให้เกิดปัญญา สร้างสรรค์สังคม
ภาพ พงษ์พันธ์ พวงพิลา
วรรณกรรมไทยถือเป็นเอกลักษณ์ของไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป ปัจจุบันเด็กไทยลดความนิยมในการอ่านวรรณกรรมไทย อาจด้วยจากกระแสหนังสือที่มาจากฝั่งตะวันตกและตะวันออกที่กำลังตีตลาดหนังสืออยู่ในขณะนี้ ดังนั้นทาง บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ได้จัดกิจกรรมการอ่านบันดาลใจสู่ภาพศิลป์กับโครงการ “จินตนาการสืบสานวรรณกรรมไทยกับอินทัช ปีที่ 5” ในหัวข้อ ‘ความสุขจากการให้’ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ‘พระองค์ทรงเป็นผู้ให้แก่ปวงชนชาวไทย’ ซึ่งงานนี้ได้รับเกียรติ์จากศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ร่วมแถลงข่าวในพิธีเปิดโครงการครั้งนี้ด้วย
เพราะการอ่านทำให้เกิดปัญญา ด้วยเหตุนี้โครงการการประกวดภาพวาดจากวรรณกรรมไทย ‘จินตนาการสืบสานวรรณกรรมไทยกับอินทัชปีที่ 5 ’จึงเกิดขึ้นเพื่อเชิดชูและสืบสานความเป็นไทยซึ่งเป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะเรื่องของภาษาและวัฒนธรรมไทยด้วยการกระตุ้นให้เยาวชนรักการอ่าน ภาคภูมิใจในความเป็นไทย สามารถนำประโยชน์และความรู้ที่ได้รับจากการอ่านมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม โดยหัวข้อการประกวดในปีนี้คือ ‘ความสุขจากการให้’ เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการให้ เป็นสังคมที่มีความสุขอันเกิดมาจากการเป็นผู้ให้ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ การให้ความรัก การให้ทาน การให้โอกาส การให้อภัย การให้เหล่านี้จะนำมาซึ่งมิตรภาพ ความสุข รอยยิ้มโดยสามารถเกิดแก่ทั้งผู้ให้และผู้รับ
นอกจากนี้ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา พระองค์ทรงเป็นผู้ให้อย่างแท้จริงดังจะเห็นได้จากพระราชกรณียกิจมากมายนานับประการที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่พสกนิกรของพระองค์ ถือเป็นตัวอย่างที่เราควรดำเนินรอยตาม ด้วยการ”ให้”
นางสาวเชอเกลอ แบ่แหย่ อายุ 18 ปี ชาวเผ่าอาข่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 30 จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่อยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “ภาพนี้มีชื่อว่า ‘น้ำพระทัยไหลริน สู่แดนผา’ เป็นการใช้จินตนาการร่วมกันของ 5 ชนเผ่า มีดังนี้ จีนฮ่อ ไทลื้อ อาข่า ไทยใหญ่และเย้า โดยเป็นผลงานศิลปะสื่อผสม และไม่ได้อ้างอิงมาจากวรรณกรรมเล่มใดนะคะ เป็นการใช้จินตนาการเรื่องการให้ของในหลวงมาถ่ายทอดว่าแต่ละเผ่าได้รับอะไรบ้างจากในหลวง ในหลวงท่านให้อะไรแก่พวกเราบ้าง ก็นำสิ่งเหล่านั้นมารวมกันจึงเกิดมาเป็นภาพนี้ เราได้ใช้เวลาวาดภาพนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ ความยากของภาพนี้อยู่ที่รูปของในหลวงค่ะ เพราะต้องทำให้คล้ายมากที่สุดและก็ต้องพิถีพิถันมากๆ” โดยการแสดงฝีมือการวาดภาพก็มาเป็นปีแรกด้วย แต่จะนำโครงการนี้ไปบอกต่อกับเพื่อนๆให้ส่งภาพเข้าประกวดเยอะๆค่ะ สุดท้ายนี้สิ่งที่ได้เหนือสิ่งใดๆคือได้แสดงความรู้สึกรักในหลวงออกมาเป็นภาพค่ะ
แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงของเรา จะทรงเป็นแบบอย่างของการให้ แต่โครงการนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านหรือบทพระราชนิพนธ์แต่อย่างใด เยาวชนที่สนใจเข้าประกวดสามารถไปอ่านและคัดเลือกวรรณกรรมไทยเรื่องใดก็ได้ที่ตนเองชื่นชอบ แล้วคัดบางช่วงบางตอนมา ใช้จินตนาการถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดให้ตรงตามนั้น สิ่งที่ได้รับจากการประกวดนี้มิได้มีเพียงแค่เงินรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สำหรับรางวัลชนะเลิศอีกด้วย ซึ่งการประกวดได้แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ประถมศึกษา 4-6, มัธยมตอนต้น, มัธยมตอนปลายและอุดมศึกษา ที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ ภาพวาดที่ได้รับรางวัลทั้งหมดจะถูกนำมาประมูลหารายได้สมทบมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ เพื่อช่วยเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วย เป็นการแบ่งปันไปยังผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาอีกชั้นหนึ่ง หากผู้ใดสนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.intouchcompany.com เพื่อร่วมก้าว เข้าสู่สังคมที่มีความสุขจากการให้กันค่ะ