Select Page

อยากสุขต้องรู้จักวาง (ทิฐิ)

อยากสุขต้องรู้จักวาง (ทิฐิ)

หลักธรรม 4 ข้อ จากพระศรีญาณโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ได้แก่ ความรัก ความรู้ ความเร็ว และความร้อน เพื่อลดทิฐิ คืนสังคมกลับสู่สันติสุข            พระศรีญาณโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก กล่าวว่า หากเปรียบประเทศไทยในตอนนี้ก็เหมือนเรือขนาดใหญ่ที่กำลังแล่นออกไปกลางทะเล แล้วถูกพายุแรงและคลื่นสูงซัดกระหน่ำจนเรือทะลุเป็นรู พอเรือทะลุคนในเรือถ้าเปรียบคือคนไทยที่อยู่กันคนละสีละฝ่าย แทนที่จะช่วยกันหาวิธีอุดรูรั่วเรือเพื่อไม่ให้น้ำเข้า แต่กลับชี้หน้าอีกฝ่ายว่าเป็นคนทำเรือรั่ว ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ปัดความรับผิดชอบ  

          “ฉะนั้น รูรั่วเมื่อถูกคลื่นแรงๆ กระแทกบ่อยๆ รูเล็กก็กลายเป็นรูใหญ่ และในที่สุดไม่มีใครคาดคิดว่าเรือที่มีคนอยู่เป็นล้านๆ คนจะอับปางลง คนทั้งหมดจมน้ำตาย ไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดียว”

         วิธีที่ง่ายที่สุดคือต้องหันหน้ามาคุย ปรึกษากันว่าจะสมานแผลรอยรั่วนั้นร่วมกันอย่างไร แต่ว่าต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากเพราะทุกฝ่ายไม่ยอมลงมาคุยเจรจากันเพราะกลัวเสียหน้าและศักดิ์ศรี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนตัว
“หากเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ประเทศชาติและประชาชนต้องมาก่อน ไม่ใช่หน้าเราหรือหน้าใครมาก่อน เพราะประเทศชาติสำคัญกว่าหน้าทุกคน”

         ทิฐิพระศรีญาณโสภณ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้คนไทยต้องแตกแยกกันขนาดนี้ เพราะมีความอิจฉาริษยา คิดว่าตนแน่ มากด้วยมิจฉาทิฐิ ความเห็นผิด ไม่ยอมกัน คิดว่าการยอมคือการเสียหน้า การยอมคือการเสียศักดิ์ศรี   ตอนนี้ไม่มีทางอื่นใด คนไทยต้องหันหน้ามาคุยกัน เพราะถ้าไม่รีบคุยก็ถือว่าจบ เพราะต้องไม่ลืมว่ากว่าที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะรู้ว่าแพ้ชนะ ถึงวันนั้นประเทศชาติก็พังพินาศแล้ว         

          ใช้ 4 ร. สร้างความสุข

         ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก กล่าวว่า ขอฝากธรรมะ 4 ข้อ คือ ความรัก ความรู้ ความเร็ว และความร้อน ให้คนไทยได้นำไปคิดพิจารณาและนำไปใช้เพื่อที่จะทำให้สภาพทุกอย่างได้กลับคืนมาเป็นปกติ คือ คนไทยกลับมารักกัน สามัคคีปรองดองกัน แต่ทุกวันนี้คนไทยขาดความรักกัน ขาดความรู้ในเรื่องส่วนรวม และขับเคลื่อนชีวิตด้วยความเร็วและความร้อนมากเกินไป

         ทั้งนี้ ท่านได้อธิบายธรรมะ 4 ร. ว่า สำหรับ ความรักนั้น คนไทยทุกวันนี้รักกันก็จริง แต่ลืมรักแผ่นดินถิ่นเกิด รักกันแต่บนผลประโยชน์ของตนพวกตน และไม่เคยคืนกำไรให้แผ่นดิน มีแต่ทำกำไรจากแผ่นดิน

      ส่วนความรู้ คือ ต้องรู้หน้าที่ของตนที่จะทำประโยชน์เกื้อกูลแก่ประเทศชาติทิฐิ2

         “ไม่คิดหาความรู้ประเภททำกำไรให้บริษัทของตนอย่างเดียว เช่น ชาวนาทำนาขายข้าวมากที่สุด แต่ก็ยังจนที่สุด ต่างจากเจ้าของโรงสี พ่อค้าคนกลางทำไมรวยอยู่คนเดียว นั่นแสดงว่าพ่อค้าคนกลาง เจ้าของโรงสี มีความรู้ แต่เป็นความรู้ที่จะทำประโยชน์ให้ตนอย่างเดียว อย่างนี้ถือว่าอันตรายมาก”

         ความเร็ว ท่านอธิบายว่า คนไทยชอบทำอะไรเร็วๆ คือ ทำแล้วต้องการเห็นผลเร็ว ไม่ทำอะไรที่เห็นผลช้า เพราะคนไทยเป็นคนอดทนไม่ค่อยได้ จึงไม่ชอบเริ่มต้นจากการศึกษาเป็นขั้นๆ ไป อย่างต้นไม้ก็ต้องขุดมาเป็นต้นๆ แล้วมาปลูก ใช้ขาหยั่งค้ำยันไว้

         ส่วนความร้อน ท่านอธิบายว่า หมายถึงความร้อนทั้งภายในและภายนอก ซึ่งความร้อนภายนอกคนไทยจะต้องช่วยกันอย่าทำให้โลกร้อนเพิ่มขึ้น อะไรที่ช่วยโลกได้ก็ควรทำ เช่น การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก เป็นต้น ส่วนความร้อนภายในคือในใจ พยายามดูแลอย่าให้ร้อน ซึ่งเมื่อรู้สึกว่าร้อนต้องพยายามทำให้เย็นลงให้ได้

         “อยากให้คนไทยขับเคลื่อนชีวิตของตนด้วยความพอดีพองาม และด้วยความระมัดระวัง อย่าขับเคลื่อนด้วยความร้อน อารมณ์ร้อน และความหุนหันพลันแล่นเป็นอันขาด”

         เข้าสู่ปีใหม่มาแล้ว อยากให้คนไทยมีความสุข ปัญหาที่มีอยู่ก็ขอให้ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องถูกวิธี และวิธีที่ดีก็น่าจะเป็นการหันหน้าพูดคุยกัน ทุกฝ่ายต้องลดทิฐิลงและยินดีที่จะเข้ามาคุยกัน หากทำได้ความสุขก็จะกลับมาสู่คนไทยอีกครั้ง

 

 ที่มา: นสพ.โพสต์ทูเดย์ วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

About The Author

aof

Leave a reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.