ตื่นก่อนรวยก่อน!! นอนดึกตื่นสาย ระวังโง่-อ้วน-เตี้ย
เห็นบทบาทจี๊ดจ๊าดของ “ลำยอง” ในละครเรื่อง “ทองเนื้อเก้า” ทางช่อง 3 ก็นึกสงสารเด็กตาดำๆอย่าง “วันเฉลิม” ลูกชายวัยเตาะแตะ ที่ต้องมีแม่ขี้เมา นอนตื่นสายโด่ง และไม่คิดทำมาหากินใดๆ นอกจากนอนรอเทพบุตรมาโปรดไปวันๆ เรื่องความขี้เกียจสันหลังยาวจะฝังรากลึกอยู่ในดีเอ็นเอมาตั้งแต่เกิด หรือเกิดจากการบ่มเพาะเลี้ยงดูแบบผิดๆ
อันนี้ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ชัด เพราะพี่น้องคลานตามกันมา ยังขยันขันแข็งผิดกัน บางคนตื่นเช้าบางคนตื่นสาย บางคนเอาถ่านบางคนไม่เอาถ่าน ทั้งๆที่เลี้ยงดูมาท่ามกลางสิ่งแวดล้อมเดียวกัน สิ่งที่ผู้ใหญ่พร่ำสอนว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ต้องอย่านอนตื่นสาย…อย่าอายทำกิน…อย่าหมิ่นเงินน้อย…อย่าคอยวาสนา ยังคงใช้ได้ดีทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะเรื่องนอนดึกตื่นสายตะวันโด่งแบบ “อีลำยอง” โดนตราหน้าเต็มๆว่าเกียจคร้านไม่ขยันทำมาหากิน
มีผลการวิจัยน่าสนใจจากวารสารยูโรเปียน เจอร์นัล ออฟ นิวโรโลจี้ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างการนอนมากเกินไปกับความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ โดยระบุว่า คนที่นอนเกินวันละ 8-9 ชั่วโมง มีความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ เรื่องนี้ “ดร.ซูซาน ซอเรนเซน” หัวหน้าฝ่ายวิจัยของสถาบันอัลไซเมอร์ โซไซตี้ อธิบายว่า การนอนเกินวันละ 8-9 ชั่วโมง แล้วยังง่วงเหงาหาวนอนระหว่างวัน อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการเป็นโรคสมองเสื่อมเมื่อสูงวัย นอกจากนี้ การนอนดึกตื่นสายยังทำให้โง่, อ้วน, เตี้ย และขาดสมาธิ
“นอนน้อย ตื่นก่อน รวยก่อน” จึงเป็นคาถาชีวิตสำคัญของมหาเศรษฐี และซีอีโอระดับโลกที่ประสบความสำเร็จ บุคคลเหล่านี้นอนน้อยเพียงวันละ 4-5 ชั่วโมง แต่เป็นการนอนอย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น “โดนัลด์ ทรัมป์” เจ้าพ่ออสังหาฯของอเมริกา ซึ่งเชื่อมั่นว่า การนอนแค่วันละ 3-4 ชั่วโมง คือเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้แซงหน้าคู่แข่ง ด้านซีอีโอคนเก่งแห่งวอล์ท ดิสนีย์ “โรเบิร์ต ไอเกอร์” ก็ตื่นนอนตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ส่วนนางสิงห์เหล็กของอังกฤษ “มาร์กาเร็ต แท็ตเชอร์” ตื่นนอนตอนตีห้าทุกวัน ขณะที่ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐอเมริกา เข้านอนตีหนึ่ง และตื่นเจ็ดโมงเช้า ไม่ต่าง
จากซีอีโอรุ่นใหม่ “แจ็ค ดอร์ซีย์” ผู้ก่อตั้ง “Twitter” เครือข่ายสังคมออนไลน์ระดับท็อป นอนวันละ 4 ชั่วโมง เท่ากับซีอีโอหญิงแกร่งแห่ง Yahoo “มาริสซา เมเยอร์” ทุ่มเวลาให้กับงานอาทิตย์ละ 130 ชั่วโมง เพราะยึดคติทำงานก่อนนอนทีหลัง คนนอนดึกตื่นสายเป็นนิสัย คงอดสงสัยไม่ได้ว่า พวกเออร์ลี่เบิร์ด นกที่ตื่นแต่เช้า จะลุกขึ้นมาจับหนอนได้ก่อนจริงหรือ แล้วพวกนกบ้าพลังเหล่านี้ตื่นมาทำอะไรกันแต่เช้า
นิตยสาร Inc. ทำการศึกษาวิจัยว่า คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตตื่นแต่เช้ามาทำกิจวัตรประจำวันอะไรบ้างก่อน 8 โมงเช้า ซึ่งถือเป็นเวลาสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งกิจกรรมแรกที่ขาดไม่ได้คือ การออกกำลังกายแต่เช้าเป็นประจำทุกวัน การออกกำลังกายก่อนเริ่มทำงานจะทำให้กระปรี้กระเปร่า สมองปลอดโปร่ง และมีพลังวังชาทั้งวัน แค่ยืดเหยียดเบาๆที่ข้างเตียง 15 นาที ก็ช่วยปลุกร่างกายให้ตื่นตัวพร้อมรับกิจกรรมใหม่ๆตลอดวัน แสงอรุณรุ่งในยามเช้ายังเป็นช่วงเวลาที่ก่อให้เกิดสมาธิ และสมองแจ่มใสที่สุด จึงเหมาะแก่การวางแผนงาน และกำหนดเป้าหมายในแต่ละวัน โดยคนดังๆที่ประสบความสำเร็จ มักเลือกทำสิ่งสำคัญที่สุดในช่วงเช้าตรู่ เพื่อเคลียร์งานหินๆให้หมดก่อน จะได้ขจัดความกังวลระหว่างวัน
ก็เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง มื้อแรกของวันจึงเป็นมื้อสำคัญที่สุด ควรเติมพลังงานให้ตัวเองด้วยอาหารเช้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ขอให้ยึดคติมื้อเช้าต้องกินอย่างราชา ส่วนมื้อเย็นกินอย่างยาจก โดยเวลาเหมาะสมที่สุดของการกินอาหารเช้าคือ 7-9 โมงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่กระเพาะทำงานมีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากเรื่องสุขภาพกายแล้ว ก็ต้องดูแลสุขภาพใจด้วย ให้เวลาตัวเองสัก 1 นาทีในช่วงเช้า ปรับเปลี่ยนอารมณ์ให้เป็นโพสิทีฟ หลังแปรงฟันเสร็จ ลองยิ้มกับตัวเองหน้ากระจก แล้วพูดสิ่งดีๆที่อยากให้เกิด เพื่อสร้างพลังบวก รับรองว่าคิดหวังอะไรก็สำเร็จ!!
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 หน้า 2